"หมอธีระวัฒน์" เตือนเร่งฉีดวัคซีนครอบคลุม 80-90% ให้เร็วที่สุด เชื่อโควิดพันธุ์ใหม่ "เอปซิลอน" เข้าไทยในไม่ช้า
4 ส.ค. 2564, 12:01
นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก เตือนเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่เอปซิลอน ที่กำลังระบาดหนักอยู่ในปากีสถาน ไม่พ้นเข้าประเทศไทยในไม่ช้า ย้ำเร่งการฉีดวัคซีนต้องครอบคลุม ทำให้ได้ถึง 80-90% ของจำนวนประชากร โดยคุณหมอได้ขึ้นข้อความระบุว่า “บุกเร็ว แรง เข้มขัน สร้างแรงกดดันต่อไวรัส การป้องกันการปะทุของสายพันธุ์เพี้ยนเหล่านี้ คงต้องยกให้ประเทศจีนเป็นประเทศที่ใช้บริบท ของการควบคุมภายในร่างกายมนุษย์ และภายนอกร่างกายมนุษย์ ในการคุมสายพันธุ์เดิมในพื้นที่ไม่ให้กลายเพี้ยน แต่จน 2564 นี้ มีการรุกล้ำจากเดลต้าเช่นกัน
กลยุทธที่ใช้ นั่นคือการสร้างแรงกดดันอย่างรุนแรงไม่ให้มีการแพร่กระจายเชื้อจากคนหนึ่งไปหาคนอื่น รวมทั้งทำความสะอาดพื้นผิวสาธารณะต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ และมีการเข้มงวดตรวจคัดกรองและแยกตัวออกทันที ที่วินิจฉัยได้ว่ามีการติดเชื้อไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ใดก็ตาม ดังจะเห็นได้จากการที่สามารถตรวจคนได้เป็น 1,000,000 คนภายในระยะเวลาไม่กี่วันในพื้นที่หนึ่ง และมีวินัยสูงสุด
การสร้างแรงกดดันที่สำคัญต่อเชื้อที่อยู่ในร่างกายมนุษย์ได้แก่ การวินิจฉัยได้เร็วที่สุด และให้การรักษาเร็วที่สุด ตั้งแต่นาทีแรกควบรวมการใช้สมุนไพรที่มีดาษดื่น และขึ้นทะเบียนในระบบสาธารณสุขของจีนอยู่แล้ว และยกระดับเป็นขั้นเป็นตอน ควบกับการรักษาแผนปัจจุบันและแม้กระทั่งการจัดท่า ของคนที่ติดเชื้อลงปอดให้เป็นท่านอนคว่ำก็เป็นกลยุทธ์ที่ประเทศจีนใช้ก่อน
แรงกดดันที่สำคัญอีกประการคือ การใช้วัคซีน เป็นจำนวนมหาศาลในเวลารวดเร็วให้แก่ประชากรมากกว่าที่คิดคือตัวเลข 60% แต่เป็นเกือบทั้งประเทศ ยกเว้นในเด็กซึ่งในระยะแรกข้อมูลความปลอดภัยอาจจะยังไม่พอ
แต่ในปี 2564 นี้เอง ที่ประเทศจีนใช้วัคซีนที่มีอยู่ดังเดิมที่เป็นเชื้อตายฉีดให้แก่เด็กด้วย การให้วัคซีนอย่างเข้มข้นเช่นนี้ เป็นการปิดโอกาส หรือเปิดโอกาสน้อยที่สุดให้กับไวรัสที่จะมีการแพร่กระจายจากคนสู่คนไปเป็นลูกโซ่ และกดดันไม่ให้มีการกลายพันธุ์ หรือรหัสพันธุกรรมเพี้ยนจนกระทั่งสามารถตั้งตัวกลายเป็นสายพันธุ์ใหม่
สำหรับในประเทศไทยเอง การสร้างแรงกดดันต่อไวรัสต้องเข้มข้นตลอดเวลา และสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นที่มาของการที่เราต้องการวัคซีนที่ดีที่สุด และสามารถคุมไวรัสที่มีเยอะที่สุดในขณะนี้ ยกตัวอย่างเช่นสายเดลต้า และอัลฟ่า ที่ต้องพูดถึงอัลฟ่าเพราะแม้แต่ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม เรายังมี ผู้ป่วยอาการหนักอายุตั้งแต่ 40 ถึง 80 ปีที่ติดเชื้อด้วยอัลฟ่า และดูเหมือนว่ายาฟาวิพิราเวีย จนกระทั่งยาฉีดเรมเดซิเวีย เอาไม่อยู่ หรือแทบเอาไม่อยู่
การฉีดวัคซีนที่ว่าต้องครอบคลุม ทำให้ได้ถึง 80 ถึง 90% ของประชาชนในระยะเวลาเร็วที่สุดภายในสามเดือน โดยที่ในเด็กเล็กอายุตั้งแต่สองขวบจนกระทั่งถึง 15 ปี สามารถใช้วัคซีนเชื้อตายอย่างที่ประเทศจีนได้นำมาใช้โดยแม้ว่าจะกันการติดของเดลต้าไม่ดีเท่ากับวัคซีนอื่นแต่สามารถลดอาการหนัก หรือเสียชีวิตได้
และประเทศจีนกำลังนำวัคซีนคู่แฝดไฟเซอร์ เข้ามาเสริมป้องกัน เดลต้า และการพัฒนาวัคซีนโปรตีนย่อยแบบโนวาแวกซ์ แต่แทนที่จะผลิตในระบบเซลล์แมลง หรือใบพืชแบบของใบยาจะผลิตในเซลล์เพาะเลี้ยงแทน รวมถึงวัคซีนอีกหลายเทคนิค
การรุกหนักอย่างเข้มข้นรวดเร็วจะกันไม่ให้มีการกลายพันธุ์ภายในพื้นที่เหมือนกับสายพันธุ์เอปซิลอน ในสหรัฐที่ถือกำเนิดในพื้นที่เอง ไม่มีการนำเข้า และที่แพร่ไปหลายสิบประเทศแล้วจนกระทั่งถึงปากีสถาน และแน่นอนไม่ช้าไม่นานคงจะเข้าประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมกระทั่งถึงประเทศไทย (และดาหน้ามาอีกมหาศาล เดลต้าพลัส เป็นต้น)”