วันที่ 5 ส.ค.64 นายพรหมสิงห์ สิงหเสนี อาสาสมัครอนุรักษ์พิทักษ์สิ่งแวดล้อมทะเลปราณบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากในกลุ่มแอพพลิเคชั่นไลน์ กลุ่มแจ้งเหตุปากน้ำปราณว่า มีลิงถูกหมากัดได้รับบาดเจ็บไปไหนไม่ไหว อยู่ที่บ้านพักต่างอากาศริมทะเล เลขที่ 144/5 เลียบถนนริมถนนทางหลวงชนบท ปากน้ำ - เขากะโหลก ข้างโรงแรมอรินตา ม.2 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงรีบไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยอุปกรณ์ในการจับ

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบนายพิพัฒน์ เพิ่มพูน คนดูแลบ้านพัก พาเข้าไปพร้อมชี้ให้เจ้าหน้าที่ดูว่าลิงตัวที่ถูกหมากัดได้รับบาดเจ็บนั่งอยู่บนต้นไม้ไปไหนไม่ไหว จากการสังเกตพบที่บริเวณต้นขาซ้ายและหน้าท้องมีเลือดสีแดงไหลออกมา จึงได้นำอุปกรณ์สำหรับจับสัตว์เลื้อยคลานที่มีบ่วงขึ้นไปบนดาดฟ้าบ้านพัก เพื่อจะเดินเข้าไปหาลิงให้ใกล้ที่สุด แต่เมื่อลิงเห็นคนเดินมาใกล้ ด้วยสัญชาติญาณสัตว์ป่า เกิดความกลัวจะมีภัย จึงพยายามเดินหนีไปขึ้นบนดาดฟ้ากระโดดขึ้นต้นสนที่อยู่ติดฝั่งทะเล เจ้าหน้าที่ก็พยายามเอาห่วงคล้องไปที่คอแต่ด้วยความฉลาดของลิงไม่ยอมให้คล้องคอเอามือปัดออกอยู่ตลอดเวลา ระหว่างนั้นก็สังเกตมีเลือดไหลออกมามากจนไหลเปื้อนพื้นเป็นสีแดงเจ้าหน้าที่พยายามจับเท่าไรก็จับไม่ได้

เวลาผ่านไปนานประมาณครึ่งชั่วโมงก็สามารถใช้ห่วงคล้องที่มือได้ เจ้าหน้าที่อีกคนก็พยายามจะเอาผ้ามาคลุมตัวเพื่อไม่ให้ตกใจ ก็ไม่ทันเจ้าลิงสะบัดห่วงหลุดและหนีกับขึ้นบนต้นไม้อีกครั้ง คราวนี้ลิงยิ่งระมัดระวังมากขึ้น ขณะเอากล้วยมาล่อก็ไม่สนใจนั่งไปหลับไป เจ้าหน้าที่จะพยายามเอาห่วงคล้องตัวอย่างไรก็ไม่เป็นผล จนเจ้าของบ้านบอกว่า คงต้องรอให้ลิงมั่นใจว่าปลอดภัยแล้วลงก็จะเรียกเจ้าหน้าที่มาอีกครั้ง

 

 

ด้านนายพรหมสิงห์ เล่าให้ฟังว่าได้รับแจ้งว่ามีลิงถูกหมากัดได้รับบาดเจ็บ ให้มาช่วยจับนำไปรักษา เมื่อมาถึงก็พบว่าเป็นแสม อายุมาก สังเกตได้จากดูที่ขนาดตัว และฟันที่เหลืออยู่เพียงซี่เดี่ยว ลักษณะเชื่องช้าไม่ว่องไวเหมือนลิงทั่วไป มีบาดแผลถูกหมากัดที่บริเวณขาซ้ายและหน้าท้องมีเลือดไหลออกไม่หยุด อย่างไรลิงก็ไม่ยอมให้จับโดยง่าย เกรงว่าถ้าเกิดการช่วยเหลือเป็นเหตุให้ลิงซึ่งได้รับบาดเจ็บอยู่ตกจากต้นไม้ลงไปกับพื้นที่สูงกว่า 5-6 เมตร เกรงว่าจะได้รับบาดเจ็บมากเก่าซึ่งไม่เป็นผลดีต่อลิง จึงได้ยุติการช่วยเหลือไว้ก่อนต้องรอจังหวะที่เหมาะสมจึงจะได้จับไปรักษาคอยดูอาการถ้าหากลิงไม่หายไปไหน