แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่เยี่ยม และให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ จ.สุราษฎร์ธานี
5 ส.ค. 2564, 13:20
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 สิงหาคม 2564 ที่ โรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี พล.ทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ พี่น้องประชาชนที่เข้ารับการรักษา ตลอดจนเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมนำเครื่องอุปโภคบริโภค อาหารปรุงสำเร็จ มอบให้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและจัดตู้ไอศกรีม มอบให้แก่เจ้าหน้าที่
และพี่น้องประชาชนที่เข้ารับการรักษาได้รับประทานในช่วงเวลาพักคลายเครียดคลายความกังวลกันอีกด้วย โดยมี นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี นายแพทย์มนู ศุกลสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นผู้รับมอบ ก่อนจะเข้าให้กำลังใจผู้ปฏิบัติหน้าที่ และพูดคุยให้กำลังใจผ่านไมโคโฟนห้องกระจก ไปยังผู้ป่วยว่า ขอให้มั่นใจบุคคลากรทางการแพทย์จะดูแลทุกท่านอย่างเต็มที่ เราจะสู้ผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 นี้ไปด้วยกัน
พล.ทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาพร้อมกับประธานแม่บ้านกองทัพบก สาขากองทัพภาคที่ 4 เพื่อมาเยี่ยมและให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พร้อมทั้งผู้ที่เข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ ซึ่งผู้บัญชาการกองทัพบกได้ให้นโยบายไว้ว่า หากหน่วยงานทหารได้รับการร้องขอจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยุทโธปกรณ์ ยานพาหนะ หรือบุคลากร ขอให้ผู้บังคับหน่วยรีบให้การช่วยเหลือโดยด่วน ซึ่งขณะนี้กองทัพภาคที่ 4 ได้ให้การสนับสนุนโรงพยาบาลสนามในพื้นที่รวม 12 แห่งแล้ว สำหรับโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งนี้ได้มอบหมายให้มณฑลทหารบกที่ 45 เป็นหน่วยหลักในการสนับสนุนภารกิจของโรงพยาบาลสนาม
นายแพทย์มนู ศุกลสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยง 3 กลุ่ม ไปแล้ว กว่า 20% และจะทยอยฉีดให้ครบ 80 % ซึ่งกำลังติดตามดำเนินการเพื่อให้ครบตามกลุ่มเป้าหมาย ในส่วนโรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี มีผู้ป่วนติดเชื้ออยู่ 274 ราย ซึ่งสามารถขยายได้ถึง 500 เตียง นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลท่าโรงช้างซึ่งยังรองรับได้อีก 200 เตียง และกำลังเร่งสำรวจทุกอำเภอที่มีความพร้อม ให้จัดทำ CI หรือ Community Isolation ไว้สำหรับให้คนที่มีอาการดีขึ้นไปรักษาตัวที่ CI ซึ่งจังหวัดสุราษฎร์ธานียังสามารถรองรับผู้ป่วยรวมถึงผู้ป่วยจากนอกพื้นที่กลับรักษาที่บ้านเกิดได้