เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ตำรวจทางหลวง" ขอโทษหนุ่มโคราช ขับรถตู้รับส่งผู้ป่วยโควิด หลังทำผิดกฏจราจร ยันชัด! เพียงแค่ว่ากล่าวตักเตือน


7 ส.ค. 2564, 10:17



"ตำรวจทางหลวง" ขอโทษหนุ่มโคราช ขับรถตู้รับส่งผู้ป่วยโควิด หลังทำผิดกฏจราจร ยันชัด! เพียงแค่ว่ากล่าวตักเตือน




จากกรณีที่ชาวโซเชียลได้มีการแชร์คลิปที่เห็น บริเวณด้านหลังของชาวบ้านถ่ายไปด้านหน้า พร้อมเห็นทะเบียนรถ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงกำลังเขียนใบสั่งอย่างขะมักเขม้น ด้านเจ้าของคลิป ได้โอดครวญ พร้อมระบายความในใจ ว่าอยากจับๆไป เดี๋ยวผมไปเสียเอา รัฐบาลชุดนี้ ออกมาดูหน่อยว่าลูกน้องทำอะไร ตนเอง กำลังจะไปรับ คนป่วยดูๆเอา แทนที่จะมาช่วยเหลือกัน มาจับเสียค่าปรับ มีมั๊ยเห็นใจกันบ้าง ให้คนเขาป่วยจะตายเขาอยากกลับบ้านดูครับ ดูเส้นปักธงชัย โคราช อยู่ที่จังหวัดชลบุรี เพื่อนำกลับมาบ้านที่จังหวัดสุรินทร์ ขณะที่ขับมาบนถนนราชสีมา  กบินทร์บุรี ช่วงอำเภอปักธัย  จังหวัดนครราชสีมา ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเรียก พร้อมเขียนใบสั่ง

โดยผู้เป็นเจ้าของรถ พูดว่าสถานการณ์เช่นนี้ ไม่น่าที่จะมาเขียนใบสั่งกันเลย ซึ่งตนเองก็กำลังจะไปรับคนป่วยที่อยู่ภาคตะวันออก และนำคนเจ็บป่วยกลับบ้านที่จังหวัดสุรินทร์ มาเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเรียกและเขียนใบสั่ง สถานการณ์เช่นนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นในยามทุกข์ยาก และตนเอง เป็นรถที่ไปรับคนป่วยจริง พร้อมกับด่า ว่าตำรวจ และผู้นำองกร ก่อนที่สักพักตำรวจทางหลวงจะนำใบสั่งมาให้ที่รถ พร้อมกับบอกว่าหากเจอ จุดอื่นเรียกก็บอกว่า เอาใบสั่งให้เขาดู ก่อนที่เจ้าของรถครับไปสั่งมาพร้อมกับพูดว่า โดนปรับ 2,000 และรีบขับรถ ออกมา พร้อมกับพูดว่าเส้นทางปักธงชัยนครราชสีมา และพูดว่าเป็นรถ 6122 ซึ่งก็เป็นรถของ ตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 6 ซึ่งดูแลรับผิดชอบในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา

 



อย่างไรก็ตาม พันตำรวจโทวิษณุ คำโนนม่วง สารวัตรตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 6 นครราชสีมา บอกว่า ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายกำลังเจรจากันอยู่ คาดว่าจะสามารถตกลงกันได้ด้วยดีและมีความพอใจทั้งสองฝ่าย อยากให้ทั้งสองฝ่าย ปรับความเข้าใจกันนและกัน เพราะบางอย่างที่เขียนลงไปในโลกโซเชียล ก็ไม่ตรงกับความเป็นจริงตำรวจทางหลวงปรับความเข้าใจรถขนผู้ป่วยโควิดแล้ว ไม่ปรับ ว่ากล่าวตักเตือน เหตุที่ออกใบสั่งเพื่อความปลอดภัย เห็นเป็นรถตู้ ที่ไม่มีผู้ป่วย กลัวจะแอบอ้างในทางที่ผิด

ล่าสุด ตำรวจทางหลวงได้ออกมาชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 5 สค.64 เวลาประมาณ 13.00 น. ขณะรถวิทยุ 6122 ออกตรวจพื้นที่ในเขตรับผิดชอบ ถึงบริเวณ ทล.304 ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นเส้นทางที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง พบรถตู้สีม่วง โดยรถตู้คันดังกล่าว ป้ายฟ้า  ไม่มีสัญลักษณ์ทีมกู้ภัย หรืออาสาขับมาด้วยความเร็ว อยู่ในช่องทางด้านขวา โดยเปิดสัญญาณไฟวับวาบ โดยที่ช่องทางด้านซ้ายไม่มีรถวิ่งแต่อย่างใด รถวิทยุ 6122 จึงได้กดแตรสัญญาณเตือน เพื่อให้เข้าซ้าย แต่รถตู้คันดังกล่าวไม่เข้าซ้าย จึงกดสัญญาณไซเรน ไปอีก 1 ครั้ง เพื่อให้รถตู้ชิดขอบทางด้านซ้ายและรถความเร็ว  แต่รถตู้คันดังกล่าวก็ยังไม่ยอม รถวิทยุ 6122 จึงได้เรียกให้หยุดรถ เพื่อตรวจสอบ ว่าเป็นตู้ลักษณะใด ถึงติดสัญญาณไฟวับวาบได้

 


ด.ต.รุศรัณย์ กาญจนพิมาย จึงลงจากรถและเดินเข้าไปสอบถาม เรื่องใบอนุญาตสัญญาณไฟ คนขับบอกไม่มี ถ้าผิดอะไร ก็เขียนไปสั่งมาเลย จะไปรับผู้ป่วยโควิดจากชลบุรีมาสุรินทร์ ด.ต.รุศรัณย์ จึงมองไปที่ด้านหลัง พบว่าไม่มีผู้ป่วยโควิด เป็นเพียงที่นั่งเปล่า พยายามจะอธิบาย แต่คนขับให้ออกใบสั่ง โดยตำรวจทางหลวงเกรงว่า จะเป็นรถตู้ที่เคยมีข่าวดัดแปลง แอบอ้างเป็นรถขนผู้ป่วยโควิด แล้วมาทำผิดบนท้องถนน เนื่องจาก รถคันดังกล่าว ไม่มีสัญลักษณ์ของกู้ภัย รถพยาบาล และเป็นทะเบียนป้ายฟ้า ซึ่งสีเดิมของรถคือ สีเทา แต่เปลี่ยนมาเป็นสีม่วงจึงได้ออกใบสั่ง ข้อหา “ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย และใช้สัญญาณแสงวับวาบโดยไม่ได้รับอนุญาต” แล้วเขียนสั่งให้แก่นายอุทิศ บุญมา ผู้ขับขี่ โดยไม่มีการเรียกรับเงิน หรือผลประโยชน์แต่อย่างใด

ต่อมา เมื่อตรวจสอบโดยละเอียดว่า ผู้ครอบครอง คือนางสาวดารุณี ปรึกษาดี และพบว่าเป็นรถขนส่งผู้ป่วยจริง ด.ต.รุศรัณย์ จึงได้เดินทางไปพบชี้แจงทำความเข้าใจกับ นายอุทิศ คนขับขี่ แต่ด้วยสถานการณ์โควิด นายอุทิศ อยู่ระหว่างกักตัว จึงพูดคุยผ่านทาง ผอ.รพ.สต.ศรีสุก อำเภอศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ ที่ทำการดูแลหมู่บ้านของนายอุทิศอยู่  ซึ่งนายอุทิศฯ ได้เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ และทำการโพสเฟคบุ๊คแก้ไข ในความเข้าใจผิด โดยเฉพาะประเด็นค่าปรับ 2,000 บาท ซึ่งยังไม่ได้ชำระ ซึ่งเป็นเพียงการว่ากล่าวตักเตือน

ทั้งนี้ตำรวจทางหลวง ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการจับกุมแต่มุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและ ที่ผ่านมาจะคอยนำ คอยประสานจุดพักรถ และอำนวยความสะดวกร่วมปฏิบัติกับรถขนผู้ป่วยโควิดมาต่อเนื่อง






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.