ผู้ช่วย รมว.ท่องเที่ยวฯ แสดงความเสียใจ พร้อมเยียวยา 1 ล้านบาท ญาติชาวสวิส
10 ส.ค. 2564, 08:33
จากกรณีนักท่องเที่ยวสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ นางสาวนิโคล ซาเว่น ไวครอป (Nicole Sauvain Weisskopf) อายุ 57 ปี ซึ่งเดินทางมาประเทศไทยผ่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานจังหวัดภูเก็ต ภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยได้ถึงวันที่ 26 สิงหาคม 2564 แต่พบว่าถูกทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้เสียชีวิตบริเวณน้ำตกโตนอ่าวยน ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยภายหลังเกิดเหตุ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสืบสวนและจับกุมผู้กระทำความผิดมารับโทษให้ได้โดยเร็ว พร้อมเน้นย้ำให้ทุกส่วนราชการเพิ่มความเข้มงวดดูแลนักท่องเที่ยวตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ให้มากยิ่งขึ้น
นายนภินทรกล่าวว่า เมื่อเช้าปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นวาระพิเศษ เพื่อพิจารณาอนุมัติเงินช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์จำนวน 1 ล้านบาท รวมถึงการอำนวยความสะดวก กรณีญาติผู้เสียชีวิตประสงค์จะเดินทางมารับศพ นอกจากนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมประชุมหารือกับ ผวจ.ภูเก็ต และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ข้อสรุปที่จะยกระดับความเข้มข้นด้านความปลอดภัยให้มากขึ้น เพื่อดูแลนักท่องเที่ยวตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ได้แก่ การเพิ่มจำนวนกล้อง CCTV ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆใน จ.ภูเก็ต การเพิ่มจำนวนอาสาสมัครที่ช่วยดูแลนักท่องเที่ยว
นายนภินทรกล่าวอีกว่า ดำเนินการเพิ่ม 2 มาตรการเร่งด่วนที่จะดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ได้แก่ มาตรการที่ 1 เร่งการสำรวจสถานที่ท่องเที่ยว หากไม่เป็นที่นิยมหรือเป็นจุดอับ ที่ไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่ไปดูแลเพียงพอจะปิดสถานที่ดังกล่าว และจะทำการสื่อประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มนักท่องเที่ยว มาตรการที่ 2 ยกระดับมาตรการความเข้มข้นในการเดินทางเข้าพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยเฉพาะบริเวณด่านตรวจท่าฉัตรไชยทั้งคนไทยและชาวต่างชาติจะต้องถูกตรวจสอบทุกคน
“แม้เจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมคนร้ายได้ แต่ไม่อาจทดแทนกับความสูญเสียของครอบครัวผู้เสียชีวิตไปได้ อย่างไรก็ตามกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกมาตรการความเข้มข้น จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และหวังว่าประชาชนชาวสวิตเซอร์แลนด์จะมีความเข้าใจ และเห็นความตั้งใจของรัฐบาลไทยที่จะดูแลรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหวังว่านักท่องเที่ยวชาวสวิตเซอร์แลนด์จะยังคงมีความเชื่อมั่นที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยในอนาคต” นายนภินทรกล่าว
ส่วนความคืบหน้าของคดีฆ่าสาวสวิส พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ รอง ผบช.ภ.8 รรท.ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีฆ่าสาวชาวสวิส ประกอบด้วย พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.สส.ภ.8 ตำรวจ สส.ภ.จ.ภูเก็ต และชุดสืบสวน สภ.วิชิต พร้อมกับแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต จากนั้นพนักงานสอบสวนคุมตัวนายธีรวัฒน์ หรือบังหลี ท่อทิพย์ ผู้ต้องหาออกมาจากห้องขังที่ สภ.วิชิต เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม
พล.ต.ต.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ กล่าวว่า ตำรวจฝ่ายสืบสวนและสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานให้ครบทุกด้าน ขณะนี้ต้องรอหลักฐานจากนิติเวชและกองพิสูจน์หลักฐานมาประกอบสำนวนคดี เมื่อช่วงเช้าพนักงานสอบสวนทำสำนวนฝากขังผู้ต้องหาผัดแรกต่อศาลจังหวัดภูเก็ต ผ่านทางระบบออนไลน์ในช่วงโควิด-19 ระบุว่าตำรวจต้องสอบสวนผู้ต้องหาเพิ่มเติมขอคุมตัวไว้ที่ สภ.วิชิต ในส่วนของผู้ต้องหาไม่ได้มีการร้องขออะไร เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ผู้ต้องหาพบกับทนายและภรรยาแล้ว นอกจากนี้ยังโฟนอินกับพ่อแม่ด้วย ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่เก็บไว้ทั้งหมด ไม่กังวลผู้ต้องหากลับคำให้การในชั้นศาล จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี รู้สึกเสียใจและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น