ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า กรณีเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 10 ส.ค.64 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยใต้เต็กตึ๊งสิชล และเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลตำบลทุ่งใส อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 12 คน พร้อมอุปกรณ์ตัดถ่าง เข้าช่วยเหลือรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ เสียหลักตกร่องกลางถนน บนถนนสายนครศรีธรรมราช - สุราษฎร์ธานี ขาล่อง หมู่ 2 ต.ทุ่งใส อ.สิชล มีคนติดซากเก๋ง 4 คน ทั้งหมดเป็นพ่อ แม่ ลูกกัน ทราบชื่อ นายอนิรุธ อายุ 42 ปี, นางจารุวรรณ อายุ 40 ปี,ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี และ ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 5 ปี อย่างไรก็ตาม นายอนิรุธ และ นางจารุวรรณ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาลสิชล ส่วน ด.ญ.เอ และ ด.ญ.บี บาดเจ็บสาหัส แพทย์ให้การช่วยเหลือจนอาการปลอดภัยแล้ว แต่ต้องรักษาต่อที่โรงพยาบาลสิชลสักระยะ ขณะที่ผลตรวจผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บทั้ง 4 คน พบว่าติดเชื้อโควิด – 19 ทราบภายหลังว่าผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บทั้งหมด เป็นผู้ป่วยติดเชื้อคืนถิ่นที่กำลังเดินทางกลับมารักษาตัวที่บ้านเกิดโรงพยาบาลปากพนัง แต่ระหว่างทางรถเกิดอุบัติเหตุ ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยใต้เต็กตึ๊งสิชล และเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลตำบลทุ่งใส ทั้ง 12 คน ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 ที่โรงพยาบาลสิชล ตามมาตรการฯ ของสาธารณสุข ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

 

ล่าสุด นายบุญรับ อายุ 36 ปี หัวหน้ากู้ชีพเทศบาลตำบลทุ่งใส เผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ที่ผ่านมา รับแจ้งมีรถยนต์เก๋งเกิดอุบัติเหตุตกข้างทาง มีคนเจ็บ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งสภาพพังเสียหาย มีผู้บาดเจ็บติดคาซากรถ 4 ราย จึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยใต้เต็กตึ๊งพร้อมอุปกรณ์ตัดถ่าง รีบช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บทั้ง 4 ราย ออกจากซากรถ ส่งโรงพยาบาลสิชล อย่างไรตามทราบภายหลังว่าผู้บาดเจ็บทั้ง 4 ราย เป็นพ่อ แม่ ลูก และเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด – 19 ที่เข้าร่วมโครงการกลับรักษาที่บ้านเกิด ที่โรงพยาบาลปากพนัง แต่ระหว่างทางรถเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทั้ง 13 คน เข้าตรวจหาเชื้อพร้อมกักที่ 14 วัน ตามมาตรการฯ ของสาธารณสุข 

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยทั้ง 13 คน เข้าตรวจหาเชื้อและกักตัว 14 วัน ตามมาตรการฯ ของสาธารณสุข ตามสถานที่ที่กำหนด ขณะที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต.สี่ขีด และผู้ช่วยแพทย์ประจำ ต.สี่ขีด อ.สิชล สนับสนุนเงินจำนวน 3,000 บาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจช่วงระยะเวลาที่กักตัว อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ที่เข้าช่วยเหลือมีการสวมชุด PPE  ทั้ง 4 คน เท่านั้น เนื่องจากชุด PPE มีไม่เพียงพอกับเหตุการณ์ที่ต้องช่วยเหลือประชาชน ที่สำคัญชุด PPE สวมใส่เพียงครั้งเดียวต้องทิ้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ขาดแคลนชุด PPE นอกจากนี้อุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ทั้งหน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์ หากผู้ที่ต้องการช่วยสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกัน ทั้ง ชุด PPE หน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์ สามารถบริจาคได้ที่หน่วยกู้ภัยใต้เต็กตึ๊งสิชลหรือโทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ฯ 089 - 5939657 นายพรนที พรหมทอง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยใต้เต็กตึ๊งสิชล เพื่อนำไปแจกจ่ายกับเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนต่อไป