วันที่ 11 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า สถานการณ์โรคโควิดในพื้นที่จังหวัดนครพนม มีผู้ติดเชื้อใหม่ 98 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 3,443 ราย มีเสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย เป็นชายอายุ 42 ปี ชาวอำเภอเรณูนคร เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา และมีอาการทรุดลงเรื่อยๆ กระทั่งเสียชีวิตเป็นรายที่ 13 ของจังหวัดนครพนม

นอกจากนี้จังหวัดนครพนมได้ออกคำสั่งที่ 1977/2564 ปิดหมู่บ้านนาน้อยหมู่ 3 ต.เหล่าพัฒนา อ.นาหว้า เป็นการชั่วคราว จำนวน 55 หลังคาเรือน ประชากร 135 ราย เพื่อตรวจและค้นหาเชิงรุกตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ทั้งนี้ตั้งแต่ วันที่ 8 -12 สิงหาคม 2564 เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อเป็นชายอายุ 72 ปี อาศัยอยู่บ้านนาน้อยหมู่ 3 ต.เหล่าพัฒนา โดยไม่ได้ออกไปไหน เริ่มมีอาการป่วยจากกรณีท้องเสียนอนรักษาตัวอยู่ รพ.นาหว้าประมาณ 2 วัน หลังอาการดีขึ้นก็กลับมาพักฟื้นที่บ้าน มีอาการไอร่วมจนญาตินำส่ง รพ.นาหว้า อีกครั้ง แพทย์จับตรวจหาเชื้อโควิดพบว่าติดเชื้อ แต่ผู้ป่วยเล่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่ชัดเจน ว่า ตนเองไปสัมผัสกับผู้ใดมาบ้าง

 

ขณะเดียวกันมีคลัสเตอร์สิงห์รถบรรทุกที่ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (นครพนม-ลาว) ที่มีผู้ติดเชื้อแล้ว 18 ราย หลังพบผู้ป่วยรายแรกของเคสนี้เป็นชิปปิ้ง ทำงานบริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) โดยได้สัมผัสกับคนขับรถบรรทุกที่นำสินค้าจากต้นทาง ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงจำนวนหลายสิบคัน มีอาการช่วงปลายเดือนกรกฎาคม จึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อพบว่าเป็นบวก ทีมแพทย์จึงตรวจค้นหาเชิงรุกกับสิงห์รถบรรทุกทุกคัน และพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 18 ราย ทางจังหวัดนครพนมจึงมอบอำนาจให้ขนส่งจังหวัดนครพนม สั่งระงับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเฉพาะบริษัทแห่งนี้ที่พบมีผู้ป่วยติดเชื้อเป็นเวลา 14 วัน และเตรียมเสนอพิจารณาขออนุญาตปิดหมู่บ้านสำราญ (บางส่วน)

ทั้งนี้ คลัสเตอร์สิงห์รถบรรทุกยังลามไปถึงสำนักงานอัยการจังหวัดนครพนม สืบเนื่องจากใกล้ๆ กับบริษัทขนส่งสินค้าระหว่างประเทศนี้ มีอู่ซ่อมรถยนต์ที่คนขับรถบรรทุกไปใช้บริการประจำ จึงแพร่เชื้อไปติดกับเจ้าของอู่ดังกล่าว จังหวะเดียวกันมีเจ้าหน้าที่ทำงานสำนักงานอัยการจังหวัดนครพนมแวะไปใช้บริการพอดี มีการพูดคุยกันกับเจ้าของอู่เกี่ยวกับปัญหาเครื่องยนต์ ต่อมาหลังพบว่าชิปปิ้งและคนขับรถบรรทุกติดเชื้อโควิด จึงไล่เช็คไทม์ไลน์พบว่ามีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงหลายคนร่วมทั้งเจ้าของรถยนต์และเจ้าหน้าที่ฯ รายนี้ จึงนำตัวผู้เกี่ยวข้องที่สัมผัสกับผู้ป่วยมาตรวจค้นหาเชิงรุกก็พบว่าติดเชื้อทั้งหมด ทางทีมแพทย์จึงเร่งตรวจหาเชื้อผู้ทำงานในสำนักงานอัยการจังหวัดจำนวน 60 คน ผลเบื้องต้นออกมาเป็นลบ โดยคลัสเตอร์สิงห์รถบรรทุกพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อแล้ว 18 ราย และป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคอีก 2 ราย รวมเป็น 20 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก 24 ราย ทั้งหมดได้ส่งไปกักตัวเฝ้าดูอาการโดยเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระยะหลังไม่มีการแถลงข่าวรายวันเกี่ยวกับผู้ป่วยโควิด จะมีแต่การแจ้งจำนวนผู้ป่วยเพิ่มอีกราย หายป่วยกี่รายเป็นต้น ทำให้ผู้ติดตามข่าวสารเริ่มคิดกันไปเอง ประกอบกับมีข่าวลือเกี่ยวกับการพบผู้ป่วยติดเชื้อในพื้นที่ แต่ไม่ระบุไทม์ไลน์ชัดเจน ทุกคนจึงมีความตระหนกเพราะไม่รู้ว่าพื้นที่เสี่ยงในพื้นที่นั้นอยู่ตรงไหนบ้าง