สืบเนื่องจากพบผู้ป่วยติดเชื้อยืนยัน คลัสเตอร์สิงห์รถบรรทุกขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (นครพนม-ลาว) จำนวน 18 ราย โดยผู้ป่วยทำงานเชื่อมโยงกับบริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) ส่วนใหญ่คนขับรถบรรทุกจะเป็นบุคคลนอกพื้นที่ ที่นำสินค้ามาจากต้นทางซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง โดยผู้ป่วยรายแรกเริ่มมีอาการประมาณวันที่ 25 กรกฎาคม หลังเข้ารับการตรวจหาเชื้อพบว่าติดเชื้อโควิด ทีมแพทย์จึงตรวจค้นหาเชิงรุกกับกลุ่มรถบรรทุกทุกคัน โดยมีป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 2 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก 24 ราย

ล่าสุดวันที่ 12 สิงหาคม 2564 ทีมตระหนักรู้สถานการณ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม รายงานผู้ป่วยโควิดมีรายใหม่ 100 ราย รวมสะสม 3,543 ราย มีผู้ที่รักษาหายป่วยแล้ว 1,980 ราย เหลือกำลังอยู่ระหว่างรักษา 1,549 รายและพบติดเชื้อในจังหวัดอีก 3 ราย ซึ่งเป็นคลัสเตอร์รถบรรทุกที่ยังลามต่อเนื่อง

แม้ว่าทางจังหวัดนครพนมจะมีคำสั่งจังหวัดนครพนม ที่ 2002/ 2564  ปิดสถานที่และห้ามเข้าออกสถานที่ที่กำหนดเป็นการชั่วคราว และปิดหมู่บ้านสำราญเหนือหมู่ 2 และบ้านห้อมหมู่ 11 ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม ตั้งแต่วันที่ 11-17 สิงหาคม 2564 เพื่อทีมสาธารณสุขจังหวัดนครพนมทำการสอบสวนโรคชิงรุก เพื่อการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่จังหวัดนครพนมไปแล้วนั้น อาจจะช้าเกินไปเพราะไทม์ไลน์พบผู้ป่วยรายแรกของคลัสเตอร์นี้ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ไม่มีการประกาศปิดหมู่บ้านปล่อยเนิ่นนานจนถึงวันที่ 11 สิงหาคมฯ จึงมีคำสั่งดังกล่าวออกมา ถือว่าล่าช้าไปถึง 17 วัน

ในขณะที่ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ละแวกนั้น บางคนก็ไม่ทราบมาก่อนว่ามีคลัสเตอร์ใหญ่เกิดขึ้นในชุมชนของตน กว่าจะทราบก็แทบตั้งตัวไม่ทัน โดยผู้มีบ้านพักอยู่ใกล้บริษัทขนส่งสินค้าระหว่างประเทศแห่งนี้ พลอยเดือดร้อนไปด้วยเพราะถูกกักพื้นที่ ห้ามเข้าออกนอกเขตที่มีเชือกกั้นไว้ จึงตั้งข้อสังเกตว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปกปิดไทม์ไลน์ผู้ป่วยไว้ทำไม