เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"บิณฑ์-เอกพันธ์" รุดช่วยศูนย์มุฑิตานครปฐม ดูแลคนสูงวัยติดเชื้อโควิดกว่า 20 ชีวิต


14 ส.ค. 2564, 13:49



"บิณฑ์-เอกพันธ์" รุดช่วยศูนย์มุฑิตานครปฐม ดูแลคนสูงวัยติดเชื้อโควิดกว่า 20 ชีวิต




วันที่ 13 สิงหาคม 64 เวลาประมาณ 20.30 น. ที่ภายในศูนย์มุฑิตาเนอสซิ่งโฮม บิณฑ์และเอกพันธ์ บัณลือฤทธิ์ ได้นำทีมส่งต่อลมหายใจ มูลนิธิร่วมกตัญญู กว่า 10 ชีวิต เข้าให้การช่วยเหลือผู้สูงอายุและเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุซึ่งมีจำนวน 20 กว่าชีวิต โดยพบว่าได้เกิดคลัสเตอร์ภายในสถานที่ดังกล่าวเพราะทุกคนเป็นผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 และยังนอนพักรักษาตัวอยู่ภายใน โดยได้มีการส่งผู้ชำนาญการ สวมชุด PPE เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ยาและอุปกรณ์เครื่องออกซิเจน เข้าไปเพื่อสอบถามและดูอาการผู้ป่วยทั้งหมด โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบสงบ



โดยในการเข้าให้การช่วยเหลือดังกล่าวเป็นไปอย่างเงียบซึ่งภายนอกเป็นเวลาใกล้ที่จะถึงเวลาเคอร์ฟิว ห้ามไม่ให้ประชาชนทั่วไปออกไปภายนอกมีเพียงรถพยาบาลจากหน่วยงานต่างๆ ขับผ่านไปมา ซึ่งทีมงานที่ได้ให้การช่วยเหลือนำโดยบิณฑ์และเอกพันธ์ ได้มีการส่งข้อความผ่านวิทยุสื่อสาร เพื่อรายงานสถานการณ์และบรรยากาศในการให้การช่วยเหลือกลับผู้สูงอายุและพี่เลี้ยงภายใน โดยการนำเครื่องออกซิเจนเข้าไปติดตั้งเพิ่มเติมให้รวมถึงมีการนำเครื่องมือในการตรวจวัดค่าออกซิเจนของผู้ป่วยทุกคน และมีการเตรียมรถพยาบาลมาเตรียมความพร้อมหากพบมีผู้ที่มีอาการวิกฤติเพื่อส่งออกไปรักษาตัวยังสถานที่ในกรุงเทพมหานครต่อไป โดยใช้เวลา ราวเกือบ 2 ชั่วโมงจึงได้มีการทยอยออกมาจากสถานที่ดังกล่าว

โดยบิณฑ์ บันลือฤทธิ์ เผยว่า การเข้ามาให้การช่วยเหลือผู้ป่วยครั้งนี้เพราะทางคุณ ท๊อป เอกพันธ์ ได้รับการประสานมาจาก คุณสาย ซึ่งเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าวเพื่อขอความช่วยเหลือเนื่องจาก สถานที่ศูนย์มุฑิตาเนอสซิ่งโฮม มีผู้สูงอายุและพี่เลี้ยงติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวนถึง 20 กว่าคน โดยตัวคุณสายก็ยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเนื่องจากมีการติดเชื้อเช่นกัน ซึ่งคลัสเตอร์ที่เกิดขึ้น มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 5-6 คนก่อนหน้านี้  จึงได้มาพร้อมกับคุณปิยลักษณ์ ปิ่นแก้วหัวหน้าชุดของทีม "ร่วมกตัญญู ส่งต่อลมหายใจ" เพื่อผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล จึงได้รีบเข้ามาดูตามที่ร้องขอมาทันที  ซึ่งด้วยความเป็นห่วงของดร.รัตนา สมสกุลรุ่งเรือง ประธานมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้สั่งการให้มาดูเคสนี้อย่างเร่งด่วนถึงแม้จะอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม


ปิยลักษณ์ ปิ่นแก้วหัวหน้าชุดของทีม "ร่วมกตัญญู ส่งต่อลมหายใจ" เพื่อผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่กทม.และปริมณฑล ซึ่งวันนี้พบว่าภายในผู้สูงอายุและพี่เลี้ยงนั้นยังมีอาการทรงตัว แต่ก็ได้มีการวางระบบในการจัดการให้ใช้ระบบที่เราได้วางไว้ให้ก่อนและได้นำถังอออกซิเจนมาติดตั้งเพิ่มเติมให้จำนวน 5 ถังไว้และรอรับสถานการณ์หากมีความจำเป็นเร่งด่วนก็จะมีการดำเนินการเข้ามาให้การช่วยเหลือทันที ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ในสถานรับดูแลผู้สูงวัยจากที่เคยเข้าให้การช่วยเหลือจะพบว่าผู้สูงวัยที่ติดเตียงก็เกิดปัญหาจากการที่มีการคนเข้าไปเยี่ยมหรือพี่เลี้ยงที่รับเชื้อและกลับเข้าไปดูแลผู้สูงอายุภายใน ส่วนใหญ่จะเกิดการติดเชื้อภายในที่รวดเร็วเพราะอยู่กันอย่างแออัด ซึ่งสถานที่แห่งนี้ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าภายในเกิดอะไรขึ้น

ทั้งนี้ ระหว่างให้ข้อมูลทั้งคู่ยังได้ให้ข้อมูลว่าข้อมูลที่เข้ารับการช่วยเหลือในวันนี้ ตัวคุณสายผู้ดูแลที่สถานที่แห่งนี้ที่ได้รับเชื้อก็มีอาการหนักเช่นกัน โดยก่อนหน้าโรงพยาบาลนครปฐม ก็ได้มีการมารับตัวผู้ป่วยไปแล้วส่วนหนึ่ง โดยคาดว่าผู้ติดเชื้อที่นี่น่าจะมีถึง 30 กว่าคน ซึ่งที่น่าสลดคือหลายรายได้กลับมานอนรักษาตัวที่ ศูนย์มุฑิตาเนอสซิ่งโฮม เนื่องจากทางโรงพยาบาลนครปฐมได้แจ้งมาว่าเตียงเต็มและไม่เพียงพอที่จะรับผู้ป่วยไว้ได้ จึงได้ให้กลับมานอนพักรักษาตัวที่ศูนย์กระทั่งได้ทยอยเสียชีวิตไปแล้วถึง 6 คนก่อนที่จะมีการแจ้งขอความช่วยเหลือดังกล่าว

ขณะที่ข่าวดังกล่าวได้แพร่สะพัดออกไปทำให้ประชาชนในจังหวัดนครปฐมถึงกับตกใจและสลดใจกับสิ่งที่ได้ทราบเนื่องจากไม่เคยมีข้อมูลเรื่องดังกล่าวปรากฏให้ได้ยินมาก่อนและหลายคนเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวช้องกับเรื่องนี้ได้เข้ามาช่วยสนับสนุนการทำงานของทีมบุคคลากรทางการแพทย์โดยเร่งด่วน และมีหลายกระแสที่ไม่พอใจการทำงานของนายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เนื่องจากยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์กับตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตที่เกิดขึ้นในจังหวัดนครปฐมได้ในขณะนี้ โดยบางงรายได้มีการโพสต์ลงโซเชียลในหลายประเด็นที่เกิดขึ้นรวมถึงประเด็นการเปิดรับการฉีดวัคซีนในพื้นที่ซึ่งถือว่ายังน้อยมากในตอนนี้






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.