เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



 ปุ๊กลุก ปล่อยโฮ เผยเหตุผลสุดกินใจ  ไปต่อไม่ได้กับ ไมค์ ภัทรเดช


16 ส.ค. 2564, 13:01



 ปุ๊กลุก ปล่อยโฮ เผยเหตุผลสุดกินใจ  ไปต่อไม่ได้กับ ไมค์ ภัทรเดช




ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ วัชรตระกูล กลับมาเยือนหน้าจอช่อง7 HD อีกครั้ง ในรายการ WOODY SHOW  เล่าทั้งน้ำตาหลังเจอมรสุมชีวิต คุณแม่เกิดอุบัติเหตุ ทำให้แพลนทุกอย่างในชีวิตสะดุด รวมถึงต้องลดสถานะความสัมพันธ์กับ  ไมค์ ภัทรเดช เหลือเพียงความเป็นเพื่อน

ซึ่ง ปุ๊กลุก เผยว่า

"ช่วงที่ผ่านมาน่าจะหนักที่สุดในชีวิต  เหมือนกับโลกมันถล่ม เป็นเหมือนเรื่องที่รู้สึกว่ามันไกลตัวด้วย คือไม่ได้มีภาพว่าพ่อกับแม่ที่ไม่สบายเลย ภาพคุณพ่อคุณแม่ในความรู้สึกเรา คือเขาแข็งแรงมากๆ  คุณแม่มีโรคประจำตัว คือเป็นโรคความดันโลหิตสูง ในคืนวันนั้นเราก็กำลังจะนอนเลยคือแปรงฟันเรียบร้อยกำลังล้มตัวลงนอนแล้วก็ได้ยินเสียงเหมือนของหนักมันตก  คือในใจเลยคิดว่าหรือคนในบ้านล้ม พ่อกับแม่ล้ม ก็ตะโกนเรียกแม่พ่อ เลยวิ่งลงไปอย่างรวดเร็ว ก็เห็นภาพคุณแม่นอนจมกองเลือดอยู่หน้าบันไดเลย คือมันเป็นภาพที่เราเคยเห็นในละครเยอะมาก

วันแรกที่เจอคุณหมอก็แจ้งเลยว่าคือ โอกาสที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือโอกาสที่จะฟื้น หรือโอกาสที่จะรอดมันเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมากๆ เหมือนคุณแม่ขาดออกซิเจน สมองขาดอากาศหายใจนานเกินไป คือตัวเราเองก็ไม่รู้ว่าคุณแม่หมดลมหายใจไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เราทำดีที่สุดแล้ว คุณหมอแจ้งว่าจากแผ่นเอ็กซเรย์มันขาดนานเกินไป แล้วคุณหมอก็ถามว่าลูกสาวมีวิธีการคิดยังไงหลังจากนี้ ถ้าเกิดว่าตัวคุณแม่ไม่เหมือนเดิม จะให้หมอรักษาแบบไหนที่ญาติต้องการ คือคุณหมอก็คงรู้ว่าค่าใช้จ่ายจะเยอะตามมา เราก็ตอบว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะไม่ปล่อยมือแม่ ให้คุณหมอรักษาเต็มออฟชั่นเท่าที่คุณหมอจะทำได้ โดยที่ไม่ต้องคำนึงเรื่องค่าใช้จ่าย"

ในตอนนี้สถานะระหว่าง ไมค์ และ ปุ๊กลุก เปลี่ยนไป ?

"คือมันเป็นความรู้สึกของเราเอง ที่ผ่านมารู้สึกว่า รู้จักกับไมค์มา 5-6 ปี ตั้งแต่วันที่เราสดใสร่าเริง ไม่มีคอนดิชั่นเกี่ยวกับคุณแม่เลย รู้สึกว่าตัวเราเองไม่เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต หรือว่าภาวะอารมณ์ บางทีเราก็ไม่ว่าใครจะพูดอะไรที่มันขำแค่ไหนเราก็เหมือนไม่ได้ยิน คิดเรื่องอื่น เหมือนกำลังกังวลมีหลายความรู้สึกมากๆใน 1 วัน ตั้งแต่คุณแม่ล้ม"

"ทีนี้สิ่งที่มันเกิดขึ้นคือเวลาที่คุยกับไมค์หรือเจอ ก็จะรู้สึกว่าเหมือนเราดึงเขาเข้ามาอยู่ในภาวะนี้เสมอ เพราะว่าตัวเราก็ไปภาวะอื่นไม่ได้ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรที่พยายามให้เรามีความสุข บางทีก็รู้สึกว่าเราไม่ได้อยากฟัง มันเป็นความผิดของเราเอง เลยมีความรู้สึกว่าไม่อยากให้เขามาอยู่ในภาวะที่ต้องทุกข์แบบเดียวกับเรา ก็เลยคิดว่าเราถอยดีไหม เป็นเพื่อนที่ให้กำลังใจกันไปตลอดโดยที่ไม่ต้องพยายาม เขาก็ไม่ต้องพยายามทำอะไรให้เราอีกแล้ว"

"คือเขาก็ทุกข์ใจนะคะกับสิ่งที่เกิดขึ้น วันที่แม่ล้มคือไมค์ขับรถมาถึงที่โรงพยาบาลคือใช้เวลาเร็วมากๆ เลย เห็นถึงความรักที่เขามีให้กับครอบครัวเรา แล้วก็รู้สึกว่ามันไม่แฟร์กับเขาที่เรายิ้มไม่ได้ แต่เขาก็ไม่สามารถยิ้มได้เพราะว่าเราก็ยิ้มไม่ได้ ก็เลยคิดว่าการที่เรามีสเตตัสที่มันเว้นระยะสักนิดนึง เขาก็จะได้มีความสุขในแบบที่เขาควรจะเป็น"

การเว้นระยะหมายถึงว่าเขาสามารถไปดูใจคนอื่นได้ด้วยเหรอหรือว่าแค่พัก ?

"มันก็นานนะคะกับการที่เรา ไม่สามารถหัวเราะได้เลยตลอด 2 เดือน ทุกครั้งที่มีการสนทนากันก็รู้สึกว่าเราเอาเปรียบความสุขเขา เราไม่สามารถให้ความสุขเขาได้เหมือนเดิม ไม่สามารถหัวเราะได้ในเรื่องที่เขาหัวเราะ ต่อให้เขาจะหัวเราะหนูก็จะไม่หัวเราะ รู้สึกสงสารเขา มันไม่เหมือนเดิมจริงๆ ค่ะ แต่เราก็ยังมีเขาเป็นเพื่อนไง ที่รับฟังทุกเรื่อง เขาจะเป็นคนที่รู้อาการแม่ตลอด จะเป็นเพื่อนที่ไลน์มาทุกเช้าว่าแม่เป็นไงบ้างวันนี้หมอว่ายังไง"

ตอนที่เราบอกว่าขออนุญาตปรับสถานะ ไมค์ โอเคเหรอ ?

"คือเหมือนเขาอยู่ในภาวะที่อะไรก็ได้สำหรับเรา แล้วแต่ที่ปุ๊กสบายใจ แต่เขาก็จะยืนอยู่ที่เดิม ที่เคยยืน เป็น Just สถานะ แต่แบบเราหันไปกี่ครั้งก็มั่นใจว่าจะเห็นเพื่อนคนนี้ ไม่เคยปล่อยมือเราเลยแม้แต่วินาทีเดียว แล้วก็รู้สึกว่าถ้าเราเป็นแฟนคือตอนนี้เราไม่พร้อมเสียใครเลย! ไม่อยากทะเลาะ คือจิตใจเราไม่ได้พร้อมที่จะปรับความเข้าใจในเรื่องอะไรเลยคือมันแย่มากอยู่แล้ว เลยรู้สึกว่าถ้าเป็นเพื่อนก็จะเป็น feel แบบจับมือกันไป โดยที่ไม่ต้อง จะมาหาไหม ทำไมไม่โทรมา หรืออะไรแบบนี้ ให้เป็นแบบสบายๆ ไป"

"แต่ว่าก็มั่นใจว่าเรื่องดูใจหรืออะไรแบบนี้ก็คงเป็นเวลาที่เขาคงเห็นว่ามันเหมาะสม หรือตัวเขาเองก็อาจจะรับคอนดิชั่นชีวิตเราไม่ไหว เพราะทุกวันนี้ก็มีคุยกับไมค์ว่าหลังจากนี้ เราเคยแพลนไว้ว่าเดี๋ยวจะมีทริปกันไปเที่ยวต่างประเทศกันกับกลุ่มเพื่อน เพราะว่าคิดถึงการไปเที่ยวต่างประเทศมากเลย ก็บอกไมค์ว่าทุกโครงการมันจะถูกพับหมดเลยถ้าไม่มีแม่ไปด้วย และถ้าแม่ยังเป็นแบบนี้ ก็รู้สึกว่าชีวิตเราถ้ายังเป็นคนที่สนิทกันมากๆ เหมือนแต่ก่อน เราไปผูกเขาไว้กับสิ่งที่มันเป็นคอนดิชั่นใหม่ขึ้นมา"

"แล้วรวมถึงแต่ก่อนเราอาจจะไปกินข้าวนอกบ้านได้ แต่ถ้าวันหนึ่งแม่กลับมาอยู่ที่บ้านก็คงไม่มีกะใจออกไปกินข้าวนอกบ้าน ตราบใดที่แม่ยังต้องใช้การช่วยเหลือเยอะแยะมากมายแบบนี้อยู่ การที่มีสเตตัสแบบนี้ก็อาจจะทำให้เขาได้ใช้ชีวิตแบบที่ไม่ต้องทุกข์ไปกับเรา 100 เปอร์เซ็นต์ ไปเสียเวลาชีวิตเขาด้วย"



ด้านไมค์ เผยว่า

"ส่วนตัวก็รู้จักกับ ปุ๊กลุก มาหลายปีนะครับ ได้เห็นในหลายๆ มิติของกันและกัน เขาเป็นคนที่รักครอบครัวมาก ยังจำได้เลยว่าตอนที่เขาทำบ้าน มุมนี้นะทำเป็นห้องทำงานพ่อให้พ่อทำงานอย่างมีความสุข จะทำมุมนี้ให้แม่ดูทีวีไปด้วยนั่งกินข้าวได้ด้วย คือเขาคิดเผื่อคนอื่นไปหมดก่อนตัวเอง ในฐานะลูกเป็นลูกที่ดีมาก ผมเชื่อว่าความดีที่เขาเป็น จะส่งผลต่อชีวิตเขาแน่นอน เป็นกำลังใจให้เสมอนะ เธอมีอะไรเล่าให้เราฟังได้ทุกเรื่องเหมือนเดิม มีอะไรให้ช่วยเหลือบอกได้เลย อยากจะบอกว่ามีอีกหลายคนที่รักเธอมาก สู้ๆ นะ เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิม อยู่ตรงนี้แหล่ะ มีอะไร Just call me"







Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.