เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ผบก.ปคบ. ร่วมกับทีมงาน แถลงผลจับกุม 4 ผู้ต้องหา หลอกลวงลูกค้า จำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องช่วยประหยัดไฟฟ้า


23 ส.ค. 2562, 17:07



ผบก.ปคบ. ร่วมกับทีมงาน แถลงผลจับกุม 4 ผู้ต้องหา หลอกลวงลูกค้า จำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องช่วยประหยัดไฟฟ้า




เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 ส.ค. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) นายพิฆเนศ ต๊ะปวง รอง เลขาฯ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ผบก.ปคบ. พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น ผบก.ปอท. พ.ต.อ.ธวัช ปิ่นประยงค์ พ.ต.อ.สมชาย จันทร์คง รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. พ.ต.อ.อิทธิพล พงษ์ธร ผกก.1 บก.ปคบ. พ.ต.อ.เชษฐ์พันธ์ กิติเจริญศักดิ์ ผกก.2 บก.ปคบ. พ.ต.อ.ภาสกร ทุนทรัพย์ ผกก.สภ.พานทอง จ.ชลบุรี และเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปคบ. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ประกอบด้วย น.ส.เกวียน ถิเหงียน อายุ 37 ปี นายฤทธิ์ สงวนนามสกุล นายต้น สงวนนามสกุล ทั้งหมดเป็นชาวเวียดนาม และ น.ส.แพร นามสมมุติ ชาวไทย พร้อมของกลางอุปกรณ์เครื่องช่วยประหยัดไฟฟ้า Power Factor พร้อมกล่องพัสดุสินค้า 82 ตัว ฝาครอบผลิตภัณฑ์เครื่อง ประหยัดไฟฟ้า Power Factor Saver 88 ชิ้น ตัวเครื่องเปล่าผลิตภัณฑ์เครื่องประหยัดไฟฟ้า Power Factor Saver 93 ชิ้น กล่องเปล่าบรรจุผลิตภัณฑ์เครื่องประหยัดไฟฟ้า Power Factor Saver 47 ชิ้น เอกสารส่งสินค้าและใบเสร็จรับเงิน 1 ชุด สมุดบัญชีธนาคาร 7 เล่ม เทปกาวแบบใส 4 ม้วน วัสดุกันกระแทก 1 ม้วน และกล่องส่งพัสดุ 1 มัด โดยสามารถจับกุมตัวได้ภายในบ้านเลขที่ 335/17 และ337/100 ซอยเคหะร่มเกล้า 31 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. ก่อนขยายผลตรวจยึดของกลางได้ที่บ้านพักเลขที่ 300/11 หมู่ 7 ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ต่อเนื่อง 22 ส.ค. ที่ผ่านมา

 

 

พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ในฐานะโฆษก กฟน. พร้อมด้วยประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน ผู้ช่วยว่าการยุทธศาสตร์องค์การ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ นายกิตติศักดิ์ วรรณแก้ว รอง ผอ.ฝ่ายวิจัยและพัฒนาระบบไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (พีอีเอ) เดินทางเข้าร้องเรียนต่อพ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีกับเจ้าของเว็บไซต์หนึ่ง และสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ หลังร่วมกันประกาศโฆษณาจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องช่วยประหยัดไฟฟ้า ซึ่งแอบอ้างว่าสามารถช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าในครัวเรือนได้ถึง 20-30% ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริงแม้แต่อย่างใด อีกทั้งยังละเมิดแอบอ้างหน่วยงานรัฐหรือผู้ที่มีชื่อเสียงต่างๆ นำภาพมาตัดต่อโฆษณาเชิญชวนเพื่อหลอกลวงประชาชนจนมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก

พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต กล่าวต่อว่า โดยหลังจากนั้นทาง บก.ปอท. ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง บก.ปคบ. และ สคบ. เพื่อร่วมกันตรวจสอบจนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรี ที่ ค.359/2562 และ ค.360/2562 ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2562 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 335/17 และ 337/100 ซอยเคหะร่มเกล้า 31 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. พบผู้ต้องหาทั้งหมดดังกล่าว พร้อมของกลางจำนวนหนึ่ง ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่ามีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนโดยทำหน้าที่บรรจุสินค้าและส่งมอบให้แก่ลูกค้า ส่วนนายต้น เป็นพนักงานขายสินค้าและจะมาที่จุดเกิดเหตุเพียงสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น อีกทั้ง นายต้น ยังเป็นน้องชายของนายทุนชื่อ นายโก้ ที่อยู่ในประเทศเวียดนาม ภายหลังจากทราบเรื่องการร้องเรียนจึงสั่งให้หยุดกิจการเป็นการชั่วคราว และสั่งให้ขนย้ายสินค้าไปหลบซ่อนไว้ใน ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดมีการจำหน่ายเครื่องประหยัดไฟฟ้าเฉลี่ยวันละประมาณ 100 เครื่อง ในราคาเครื่องละ 999 บาท โดยดำเนินการมาแล้วประมาณ 2 ปี มีรายได้ไปกว่า 50 ล้านบาท จนกระทั่งมาถูกทางเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้ดังกล่าว

ผบก.ปคบ. กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจึงประสานไปยัง สภ.พานทอง จ.ชลบุรี เพื่อนำหมายค้นศาลแขวงชลบุรีที่ 17/2562 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2562 ไปตรวจคันบ้านพักเลขที่ 300/11 หมู่ที่ 7 ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี กระทั่งพบเพียงของกลางหลายรายการประกอบด้วยเครื่องประหยัดไฟฟ้า Power Factor Saver บรรจุในกล่อง 64 ตัว ฝาครอบผลิตภัณฑ์เครื่อง ประหยัดไฟฟ้า Power Factor Saver 88 ชิ้น ตัวเครื่องเปล่าผลิตภัณฑ์เครื่องประหยัดไฟฟ้า Power Factor Saver 93 ชิ้น กล่องเปล่าบรรจุผลิตภัณฑ์เครื่องประหยัดไฟฟ้า Power Factor Saver 47 ชิ้น เอกสารส่งสินค้าและใบเสร็จรับเงิน 1 ชุด และเอกสารอื่นๆ ซึ่งรายการสิ่งของที่ตรวจพบนี้ ปรากฏว่า ฉลากสินค้ามีแต่ข้อความภาษาอังกฤษไม่มีข้อความภาษาไทยจึงได้ทำการตรวจยึดเพื่อทำการตรวจสอบ

“ทั้งนี้สำหรับการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค และความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน รวมถึงความผิดฐานเข้าข้อมูลเท็จตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมทั้งตรวจยึดของกลางส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมทั้งเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” ผบก.ปคบ. กล่าว

 

 



 


.






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.