วันนี้ ( 16 ส.ค.64 ) ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ถึงผลการประชุมผ่านระบบทางไกลวีดีโอคอนเฟอเรนซ์โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศบค.เป็นประธาน โดยระบุถึงการประเมินผลมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นการประเมินมาตรการล็อกดาวน์ในภาพรวมของประเทศ ใน 3 ฉากทัศน์ (จากการล็อกดาวน์ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564) ซึ่งฉากทัศน์แรกที่ไม่มีมาตรการใดๆ (เส้นสีดำ) ตัวเลขจะสูงขึ้นเป็นอย่างมากซึ่งคาดว่าผู้ติดเชื้อรายวันจะสูงถึง 6-7 หมื่นคนในช่วงเวลากลางเดือนหน้า ขณะที่ฉากทัศน์ที่สอง (เส้นสีน้ำเงิน) เป็นผลจากมาตรการล็อกดาวน์ WFH ปิดสถานที่เสี่ยง ที่มีผล 20% โดยตัวเลขจะสูงสุดในช่วงเดือนตุลาคมติดเชื้อประมาณ 5 หมื่นคนต่อวัน และฉากทัศน์สุดท้าย (เส้นสีเขียว) เป็นผลจากมาตรการล็อกดาวน์ WFH ปิดสถานที่เสี่ยง ที่มีผล 25% จะเป็นเส้นกราฟที่ดูดีที่สุดจะกดตัวเลขได้ค่อนข้างมาก และผู้ติดเชื้อรายวันจะพีคสุดในช่วงธันวาคม 3 หมื่นคนต่อวัน

ขณะที่การปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโควิด-19 โดยมีสาระสำคัญระบุว่า ทุกพื้นที่ คงระดับพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร และตามมาตรการเดิมตั้งแต่วันที่ 18-31 สิงหาคม 2564 และการปรับมาตรการจำหน่ายสินค้าจำเป็น/กิจการจำเป็น ในห้างสรรพสินค้า โดยเพื่อกระจายช่องทางการใช้บริการ อำนวยความสะดวกประชาชน ให้เปิดกิจการธนาคาร และสถาบันการเงิน โดยมีมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด 26 ข้อ ตามที่สมาคมศูนย์การค้าไทยจัดทำไว้