เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



พญ. หลั่งน้ำตาขอโทษประชาชน พาพี่สาว-แม่ ฉีดไฟเซอร์ ยอมรับคิดน้อยเห็นแก่ตัว


17 ส.ค. 2564, 20:03



พญ. หลั่งน้ำตาขอโทษประชาชน พาพี่สาว-แม่ ฉีดไฟเซอร์ ยอมรับคิดน้อยเห็นแก่ตัว




กรณีที่วัคซีนไฟเซอร์นำไปฉีดให้กับบุคคลภายนอกโดยบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช จนแพทย์หญิงคนดังกล่าวได้เดินทางมาพบ นายแพทย์จรัสพงษ์สุขกรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ยอมรับว่าได้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์โดสดังกล่าวให้กับพี่สาวและแม่จริง  แต่ได้ฉีดให้พี่สาวส่วนแม่ยังไม่ได้ฉีด เนื่องจาก ผอ.รพ.นบพิตำ สั่งห้ามฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้บุคคลภายนอกเด็ดขาด และทราบว่าแพทย์หญิงที่ตกเป็นข่าวได้ยื่นใบลาออกต่อทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชเรียบร้อยแล้ว 

วันที่ 17 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ รพ.นบพิตำ แพทย์กฤตยาณี หรือ “หมอกุ๊บกิ๊บ” แพทย์ประจำ รพ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เป็นแพทย์หญิงที่ตกเป็นข่าว เปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นมา ว่าเมื่อวันที่ 12 ส.ค.64 ทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรด่านหน้าต้องเดินทางไปช่วย รพ.บุษราคัม จ.นนทบุรี ทาง รพ.จึงได้เบิกวัคซีนไฟเซอร์มา 1 ขวด ทำการฉีดให้กับบุคลากรเป็นโดสที่ 3 จำนวน 6 คน ที่จะเดินทางไปช่วย รพ.บุษราคุม และพบว่าเมื่อฉีดครบแล้วมีวัคซนเหลือก้นขวดก็ต้องทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ในความคิดของตนมองว่าน่าจะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ดีกว่าทิ้งถังขยะไปเฉย จนกระทั้งวันที่ 13 ส.ค. 2564 ทาง รพ.นบพิตำ จะทำการฉีดวัคซีนให้บุคลากรด้านหน้า จำนวน 66 คน โดยเบิกวัคซีนไฟเซอร์มาจำนวน 11 ขวด จนกระทั่งเวลาประมาณบ่ายโมงเศษตนได้เดินทางมาที่จุดฉีดวัคซันถามทีมฉีดวัคซีนว่ามีวัคซีนเหลือก้นขวดบ้างไหม ทีมฉีดวัคซีนก็ตอบว่าบางขวดก็เหลือบางขวดไม่เหลือ โดยวัคซีนที่เหลือโดสที่ 7 ก่อนขวดนั้นไม่มีใครรับรองว่ามีคุณภาพหรือไม่ เขาจะไม่ให้ฉีดให้ใครเพราะอาจจะไม่ได้คุณภาพ 

“โดยหมอบอกว่าขวดที่เหลือหมอขอได้ไหมเพื่อจะฉีดให้แม่กับพี่สาว จึงโทรไปให้พี่สาวที่ช่วยงานในคลินิกหน้า ม.วลัยลักษณ์ อ.ท่าศาลา ให้ขับรถพาแม่มาด้วย โดยบอกกับพี่สาวและแม่ว่ามีวัคซีนก้นขวดที่เขาทิ้งแล้วจะเอาไหม ฉีดไหม พี่สาวบอกว่าเอา วัคซีนอะไรก็ได้ขอให้ได้ฉีด จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่แจ้งเรื่องให้ ผอ.รพ.ทราบ ท่าน ผอ. จึงสั่งระงับการฉีดวัคซีนให้บุคคลภายนอก ดังนั้นแม่จึงยังไม่ได้ฉีด ตามที่เป็นข่าวทางสื่อบางสังกัดว่าหมอเบียดบังเอาเอาวัคซีนโดสที่ 6 ฉีดให้แม่นั้นไม่เป็นความจริง "

แพทย์หญิง กล่าวอีกว่า  เมื่อพี่สาวมาถึงหมอจึงให้เข้าไปนั่งในจุดที่ฉีดวัคซีน เพราะหมอมีความบริสุทธิ์ใจในการฉีดวัคซีนก้นขวดให้พี่สาว บุคลากรด่านหน้าที่ต้องรับวัคซีนทุกคนก็นั่งอยู่ ซึ่งหมอไม่มีทางที่จะเบียดบังไปแย่งวัคซีนเอาของเขามาฉีดให้พี่สาวและแม่  ยืนยันว่าวัคซีนที่ฉีดให้พี่สาวเป็นวัคซีนที่ทิ้งแล้ว และเขาจะไม่แนะนำให้เอามาฉีดให้กับบุคลากรด่านหน้า หากมีเหลือก็ทิ้ง หมอคิดว่าอย่าทิ้งเถอะมันเสียดาย หากหมอไม่บริสุทธิ์ใจจริง ๆ หมอก็บอกพยาบาลว่าหมอเอาไปฉีดให้พี่สาวเอง ฉีดในห้องหมอ ในรถก็ได้ หรือจุดไหนก็ได้ไม่ให้ใครเห็น ไม่มีใครรู้ แต่ด้วยความที่หมอบริสุทธิ์ใจ และคิดน้อยไปจึงให้พยาบาลฉีดให้พี่สาวนะจุด ๆ นั้น จนเป็นเหตุให้คนบางคนที่เห็นเหตุการณ์อาจจะไม่เข้าใจ และวิตกกังวลว่าหมอไปแย่งวัคซีนของบุคลากรด่านหน้ามาหรือเปล่า 
 
“มันเป็นวัคซีนที่เหลือก้นขวดทิ้งถังขยะจริง ๆ ทุกคนที่นั่งอยู่ก็เห็น บุคลากรด่านหน้าที่ 66 คน ทุกคนได้รับวัคซีน ยอมรับว่าหมอให้พี่สาวพาคุณแม่มาด้วย แต่แม่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแต่อย่างใด เพราะหลังฉีดให้พี่สาวก็มีบุคลากรบางท่านรายงานให้ ผอ.รพ.นบพิตำ ว่ามีการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ของบุคลากรด่านหน้าให้กับบุคคลภายนอก  ซึ่งเขาก็ทำถูกต้องแล้ว จนทาง ผอ.รพ.กำชับไม่ให้ฉีดให้บุคคลภายนอก แต่หมอเองก็น้อยใจว่า เราทำงานสุ่มเสี่ยงตรงนี้มาต่อเนื่อง แต่เราไม่สามารถที่จะเอาวัคซีนก้นขวดทิ้งไปแล้วกลับมาฉีดให้กับแม่และพี่สาวของเราไม่ได้ เพื่อให้เขาปลอดภัย เพราะทุกวันที่หมอมาทำงานที่ รพ.นบพิตำ คลุกคลีกับผู้ป่วยรวมทั้งบุคลากรที่ติดเชื้อก็มี และหมอต้องกลับไปนอนกับแม่และพี่สาว ที่ผ่านมาหมอเองเป็นคนเสี่ยงและเสียสละอยู่ด่านหน้าแต่หมอไม่สามารถที่จะดูแลปกป้องคนในครอบครัวของตัวเองได้เลย นี่คือความเห็นแก่ตัวของหมอเอง หมอก็ขอโทษประชาชนทุกคนจริง ๆ ที่หมอเห็นแก่ตัว มันเป็นประเด็นที่อ่อนไหวจริง ๆ”

หมอสาวกล่าวทั้งน้ำตา อีกว่า หมอน้อยใจ เสียใจมาก ที่เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นจึงได้ตัดสินใจยื่นใบลาออกและกลับไปบ้าน คิดทบทวนตัวเองว่าสิ่งที่หมอทำมันถูกไหม เราชิงลาออกแบบนี้เราได้อะไรกับการลาออก ประกอบกับหมอที่ รพ.นบพิตำ มีน้อยมาก ส่วนหนึ่งต้องไปช่วย รพ.บุษราคัม และยังจะต้องเปิด รพ.สนามนบพิตำ ถ้าหมอออกจะมีหมอไม่เพียงพอ เพราะเป็น รพ.ขนาดเล็ก มีหมอไม่กี่คน หากหมอออกไปอีกคนก็จะไม่มีคนที่จะช่วยงานในส่วนเหล่านี้ ล่าสุดตัดสินใจกลับมาโรงพยาบาลและไปเอาใบลาออกกลับคืนมา

“ฉันจะสู้ ฉันจะสู้ก่อนเพื่อคนนบพิตำ สู่เพื่อคนไข้และจรรยาบรรณ แม้ว่าข่าวที่เกิดขึ้นและถูกโจมตีอย่างหนักมันบั่นทอนความรู้สึก บั่นทอนจิตใจตัวหมอเอง จากความเห็นแก่ตัวของหมอที่อยากให้คนที่เรารักคือแม่และพี่สาวได้ปลอดภัย มีชีวิตอยู่กับเราไปนาน ๆ  หมอกราบขออภัยด้วย และยืนยันว่าหมอไม่ได้ไปแย่งวัคซีนของบุคลากรด่านหน้า เพราะทุกคนเป็นคนที่หมอรัก หมอรู้จัก เป็นเพื่อนร่วมหมอ ซึ่งหมอไม่มีทางที่จะแย่งของเขามาอย่างแน่นอน  หมอขอโทษนะคะ ที่หมอคิดน้อยไป ที่ว่าการที่เราไปหยิบวัคซีนที่เขาทิ้งถังขยะมันอาจจะเป็นเรื่องที่ผิด ไม่ดี แพทย์หญิงกฤตยาณี กล่าวขอโทษพร้อมยกมือไหว้ด้วยน้ำตาไหลอาบแก้ม

พร้อมกันนี้ แพทย์หญิงกฤตยาณี ยังกล่าวต่อไปอีกว่าหมอเรียกร้อง ต่อสู้ขอวัคซีนให้กับบุคลากรด่านหน้ามาตลอด วันนี้ถ้าใครได้เห็นคลิปนี้ ไม่ว่ารัฐบาลหรือใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องรีบนำวัคซีนมาฉีดให้บุคลากรด่านหน้าเถอะค่ะ ตัวหมอเองไม่อยากฉีดเข็ม 3 อยากเอาเข็มที่ 3 ไปฉีดให้แม่หรือคนที่เรารัก ทุกคนรักแม่รักครอบครัว  โดยก่อนหน้านี้หมอกับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันมานาน หมอมีแม่เพียงคนเดียว  หมอจึงนำแม่และพี่สาวมาอยู่ด้วย จนเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ หมอเป็นห่วงแม่เพราะหมอต้องรักษาคนไข้โควิดเมื่อกลับมาบ้านก็ต้องนอนกับแม่ ใกล้ชิดกับพี่สาว หมอเป็นบุคคลเสี่ยงสูงคนหนึ่ง จึงตัดสินใจไปเช่าบ้านแยกให้แม่ไปอาศัยเพื่อความปลอดภัย ส่วนหมอนอนที่คลินิกกับพี่สาว  หมอ“หมอกุ๊บกิ๊บ” กล่าว



 







Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.