เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ตรวจสอบแล้ว! ทหารได้ฉีดไฟเซอร์เข็มสอง ที่รพ.อานันทมหิดล เป็นข้อมูลเท็จ


18 ส.ค. 2564, 15:31



ตรวจสอบแล้ว! ทหารได้ฉีดไฟเซอร์เข็มสอง ที่รพ.อานันทมหิดล เป็นข้อมูลเท็จ




เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานว่า พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีได้รับการยืนยันจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตรวจพบข่าวปลอมเพิ่มเติม 1 เรื่อง คือกรณีทหารได้ฉีดไฟเซอร์เข็มสอง ที่โรงพยาบาลอานันทมหิดล นั้น ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ โรงพยาบาลอานันทมหิดล แล้ว ยืนยันว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ


จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่เป็นทหารท่านหนึ่ง โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความว่า "เสี้ยน เข็ม 2/Pfizer" จนเกิดการนำไปแชร์ต่อในโลกออนไลน์ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า ทหารที่โพสต์เฟซบุ๊กคนดังกล่าวได้รับวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 2 แล้วนั้น ทางโรงพยาบาลอานันทมหิดล ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงว่า ทหารรายดังกล่าว อยู่สังกัด กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ ได้มาเข้ารับบริการที่คลินิกทางเดินหายใจ ที่โรงพยาบาลอานันทมหิดล โดยเข้ามารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) เพื่อไปทำภารกิจของหน่วย ตามที่หน่วยได้รับมอบหมายให้จัดกำลังพลไปปฏิบัติหน้าที่ถวายความปลอดภัยในพื้นที่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย ในระหว่างวันที่ 20 – 23 สิงหาคม 2564



ทั้งนี้ การที่บุคคลดังกล่าวได้โพสต์ข้อความว่า "เสี้ยน เข็ม 2/Pizer" นั้น บุคคลดังกล่าวต้องการสื่อสารให้เข้าใจว่า อยากได้วัคซีน Pizer เท่านั้น แต่ในข้อเท็จจริงบุคคลดังกล่าวยังไม่เคยได้รับวัคซีนเลย


ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากโรงพยาบาลอานันทมหิดล สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.ananhosp.go.th หรือโทร. 036 785891-5


บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ทหารตามที่ปรากฏเป็นข่าวยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์จากโรงพยาบาลอานันทมหิดลแต่อย่างใด บุคคลดังกล่าวเพียงโดยเข้ามารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อไปทำภารกิจของหน่วยเท่านั้น


รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป
 







Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.