วันนี้ ( 18 ส.ค.64 )  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แจ้งข่าวดี ผลการหารือระหว่างทูตพาณิชย์และทูตเกษตรของไทยกับหน่วยงานที่รับผิดชอบของจีน โดยจีนอนุญาตให้ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุ 50 แห่ง จาก 66 แห่ง ที่ตรวจพบศัตรูพืชค่อนข้างต่ำสามารถส่งออกลำไยไปจีนได้ และโรงคัดบรรจุอีก 6 แห่ง จาก 9 แห่ง ที่ได้ปรับปรุงตามเงื่อนไขที่จีนกำหนดแล้ว จะส่งออกได้เช่นเดียวกัน มีผลตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.2564 เป็นต้นไป ภายใต้มาตรการที่เข้มงวด ซึ่งผลจากการหารือครั้งนี้ จะช่วยเกษตรกรชาวสวนลำไยสามารถระบายผลผลิตจากสวนได้มากขึ้นและราคาลำไยก็จะปรับตัวสูงขึ้นด้วย เนื่องจากมีความต้องซื้อลำไยจากโรงคัดบรรจุและผู้ส่งออก ที่ต้องการส่งออกลำไยให้กับจีน 

ส่วนโรงคัดบรรจุที่เหลือ หากปรับปรุงตามมาตรการที่ไทยเสนอต่อจีนได้ ก็จะอนุญาตให้ส่งออกในระยะต่อไป สำหรับมาตรการที่กรมวิชาการเกษตรเสนอฝ่ายจีน เช่น 1)ป้องกันกำจัดและคัดแยกลำไยที่มีเพลี้ยแป้งปะปนออก 2)ปรับปรุงโรงคัดบรรจุ โดยให้เจ้าหน้าที่ควบคุมคุณภาพทำหน้าที่ตรวจสอบศัตรูพืช 3)เพิ่มจุดสุ่มตรวจศัตรูพืช (รับสินค้า คัดแยก ก่อนรม หลังรม) 4)เพิ่มอัตราสุ่มจากเดิมร้อยละ 3 เป็นร้อยละ 10 ในกลุ่มโรงคัดบรรจุ 66 ราย หากพบศัตรูพืชกักกันครั้งที่ 1 จะระงับการออกใบรับรองสุขอนามัยพืช 7 วัน และหากพบครั้งที่ 2 จะระงับการออกใบรับรองสุขอนามัยพืช 3 เดือน  เป็นต้น