พะเยา ดำเนินคดีชาวบ้าน 3 ราย หลังหนีไม่ยอมกักตัว
20 ส.ค. 2564, 09:48
ผู้สื่อข่าวONBnewsรายงานว่าวันที่20สิงหาคม2564สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดพะเยา ยังคงเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ โดยล่าสุดไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ในพื้นที่ เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 3 วัน ขณะที่ล่าสุดวันนี้ ทางอำเภอเชียงคำ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี ชาวบ้าน 3 รายในพื้นที่ ตำบลร่มเย็น ตำบลเจดีย์คำและตำบลฝายกวาง อำเภอเชียงคำ หลังพบว่าทั้ง 3 รายนี้ฝ่าฝืนอย่างชัดเจน ไม่ยอมกักตัวตามคำสั่งที่ทางอำเภอ กำหนด
นายวิรุฬห์ สิทธิวงศ์ นายอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ได้มอบหมายให้นายกษิดิศ อินปั๋น ปลัดประจำศูนย์ดำรงธรรม ของอำเภอ เดินทางเข้าแจ้งความที่ สถานีตำรวจภูธรเชียงคำ ในกรณีพบว่ามีผู้ฝ่าฝืนคำสั่งจากทางหวัดพะเยา ไม่ยอมกักตัวทั้งในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 และผู้ที่กลับมาจากพื้นที่เสี่ยงซึ่งมีทั้งหมด 3 รายด้วยกัน โดยทั้ง 3 รายนั้น เป็นชาวบ้านประชาภักดี ม.13 ต.ร่มเย็น บ้านดอนลาว ม.8 ต.เจดีย์คำและบ้านปัว ม.2 ต.ฝายกวาง อ.เชียงคำ จ.พะเยา ทั้งนี้พบว่าทั้ง 3 รายนี้ฝ่าฝืนอย่างชัดเจนซึ่งรายแรกนี้ ทางนายอำเภอเชียงคำได้ออกคำสั่งให้กักตัวเป็นเวลา 14 วันหลังจากที่พบว่าในพื้นที่ ต.ร่มเย็นพบผู้ติดเชื้อแต่ปรากฏว่ารายนี้กลับอ้างว่าผลตรวจทั้ง 2 ครั้งเป็นลบ จึงไม่ยอมกักตัวตามคำสั่งที่ทางอำเภอได้ออกมาโดยคำสั่งดังกล่าวมีการสั่งกักทั้งหมด 19 รายและยังเดินทางออกไปร่วมงานเลี้ยงด้วย โดยถือว่าเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งสิ้น ส่วนอีก 2 รายนั้นกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงสูงและทางอำเภอได้ทราบเรื่องว่ามีการกลับเข้ามาตามการประสานงานให้ผู้ที่อยู่พื้นที่เสี่ยงสูงกลับมากักตัวที่บ้าน ทั้งนี้ทางผู้ใหญ่บ้านได้ทำป้ายติดที่หน้าบ้านไว้ด้วยเพื่อแจ้งว่าบ้านหลังนี้มีผู้กักตัวเพราะมาจากพื้นที่เสี่ยง แต่กลับพบว่าทั้ง 2 รายนี้แอบเดินทางไปฉีดวัคซีนที่ รพ.เชียงคำ โดยไม่ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลทราบ ทั้งนี้ตนจึงได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนและเพื่อที่จะดำเนินคดีให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งนี้ให้ได้เข้าใจว่าทางอำเภอเชียงคำเอาจริงต่อผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงหรือแม้กระทั่งผู้ที่ถูกสั่งกักตัวแต่ไม่ยอมทำตามคำสั่งที่วางไว้ด้วย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เตรียมที่จะออกหมายเรียกให้ทั้ง 3 รายนี้ มารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป โดยเห็นชัดว่าทั้ง 3 นี้ฝ่าฝืนคำสั่งอย่างชัดเจนของพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ตามมาตรตรา 34 (7) คือห้ามผู้ใดเข้าไปหรืออกจากที่เอกเทศเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ โดยโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสน บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และได้เตรียมดำเนินการตามกฏหมายของ พ.ร.บ.ควบคุมโรคต่อไป
ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัส โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดพะเยา ล่าสุดไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ในพื้นที่ เป็นระยะเวลา 3 วันติดต่อกัน รับผู้ป่วยจากพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดอื่นจำนวน 15 ราย โดยมียอดสะสมผู้ป่วยในพื้นที่จังหวัด 237 ราย ผู้ป่วยสะสมรับจากกรุงเทพมหานครและจังหวัดอื่น 1,183 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 1420 ราย รักษาหายกลับบ้าน 1,093 ราย กำลังรักษา 320 ราย เสียชีวิตสะสม 7 ราย