เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ราชกิจจาฯ ประกาศแนวทางการให้บริการ “ยาฟาวิพิราเวียร์” แก่ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีผลตรวจเป็นบวกจาก ATK


21 ส.ค. 2564, 14:05



ราชกิจจาฯ ประกาศแนวทางการให้บริการ “ยาฟาวิพิราเวียร์” แก่ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีผลตรวจเป็นบวกจาก ATK




วันที่ 21 สิงหาคม 2564 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสภาเภสัชกรรมที่ 56/2564 เรื่อง แนวทางการให้บริการยา favipiravir และยาจำเป็นแก่ผู้ป่วยที่มีผลตรวจเป็นบวกด้วยชุดตรวจสำหรับ COVID-19 ประเภท Antigen Test Kits แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen Self-Test Kits)

ด้วยสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดอย่างรุนแรง รวดเร็ว ไปสู่ชุมชน ครอบครัวอย่างกว้างขวางไปทุกภูมิภาคของประเทศ กระทบต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชน ตลอดจนความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม นับเป็นภัยพิบัติร้ายแรงของประเทศชาติ การค้นหาผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็วแยกจากชุมชนและครอบครัว เพื่อมิให้เป็นพาหะแพร่เชื้อโดยวิธีการ Home isolation หรือ Community isolation รวมทั้งได้รับยา Favipiravir และยาจำเป็น ในเวลาที่เหมาะสม จะช่วยป้องกันผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่ยังไม่แสดงอาการหรือมีอาการไม่รุนแรง ลดการเจ็บป่วยรุนแรงที่ต้องเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลและการเสียชีวิตได้ ช่วยบรรเทาภาวะวิกฤติการบริการทางแพทย์และสาธารณสุข

ดังนั้น เพื่อให้ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการในร้านยาตามกฎหมายว่าด้วยยาอยู่ทั่วประเทศ มีส่วนช่วยเหลือประชาชนในภาวะวิกฤตให้สามารถเข้าถึงยาจำเป็นได้รวดเร็วและเหมาะสม สภาเภสัชกรรมจึงกำหนดแนวทางการให้บริการยา Favipiravir และยาจ าเป็นแก่ผู้ป่วยที่มีผลตรวจเป็นบวกด้วยชุดตรวจสำหรับ COVID-19 ประเภท Antigen Test Kits แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen Self-Test Kits) เพื่อประโยชน์และความปลอดภัยของผู้ป่วยและการควบคุมโรคระบาด



อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 (1) มาตรา 9 (7) มาตรา 23 (1) และมาตรา 24(1) (ก) แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ.2537 นายกสภาเภสัชกรรมโดยความเห็นชอบจากคณะกรรมการสภาเภสัชกรรมในการประชุมครั้งที่ 313 (9/2564) วันที่ 16 สิงหาคม 2564 จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศสภาเภสัชกรรม ที่ 56/2564 เรื่อง แนวทางการให้บริการยา favipiravir และยาจำเป็นแก่ผู้ป่วยที่มีผลตรวจเป็นบวกด้วยชุดตรวจส าหรับ COVID-19ประเภท Antigen Test Kits แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (COVID-19 Antigen Self-Test Kits)”

ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ 3 เภสัชกรชุมชนประเมินความเสี่ยงของผู้ป่วยหรือผู้สงสัยติดเชื้อเพื่อคัดกรองเบื้องต้นว่าควรได้รับการตรวจติดตามการติดเชื้อโควิด-19 ด้วย Antigen Self-Test Kit

ข้อ4 ในกรณีที่ผู้ป่วยหรือผู้สงสัยเข้าข่ายมีความเสี่ยงจากการติดเชื้อ เภสัชกรชุมชนจ่าย Antigen Self-Test Kit ให้แก่ผู้ป่วยหรือผู้สงสัยติดเชื้อ พร้อมคำแนะนำวิธีการใช้ Antigen SelfTest Kit วิธีการทิ้งและทำลายชุดตรวจเมื่อใช้เรียบร้อยแล้ว

ข้อ 5 เภสัชกรชุมชนอธิบายผลการตรวจเมื่อผู้ป่วยหรือผู้สงสัยติดเชื้อได้ส่งภาพหรือรูปถ่ายผลการตรวจให้แก่เภสัชกรชุมชนได้รับทราบ

ข้อ 6 ในกรณีที่ Antigen Self-Test Kit แสดงผลเป็นลบ เภสัชกรชุมชนให้คำปรึกษาแก่ผู้สงสัยติดเชื้อให้ยังคงแยกกักตัวจากผู้อื่น สังเกตอาการตนเองในระหว่างการกักตัว และแนะนำให้ตรวจเชื้อโควิด-19 ซ้ำหลังจากการตรวจครั้งแรกประมาณ 3 ถึง 7วัน หรือตรวจอีกครั้งทันทีเมื่อผู้กักตัวสังเกตว่ามีอาการคล้ายการติดเชื้อโควิด-19 เภสัชกรชุมชนติดตามอาการผู้กักตัวเป็นระยะ ๆจนหมดระยะเวลากักตัว

ข้อ 7 ในกรณีที่ Antigen Self-Test Kit แสดงผลว่าติดเชื้อโควิด-19 เภสัชกรชุมชนซักถามอาการเพิ่มเติม เพื่อประเมินระดับความรุนแรงของผู้ป่วยว่าเป็นสีเขียว เหลือง หรือแดง และให้คำปรึกษาในการดูแลตนเอง ให้แยกกักตัวจากผู้อื่น และเภสัชกรชุมชนจัดเตรียมยาเพื่อใช้สำหรับHome Isolation จัดส่งให้แก่ผู้ป่วยที่บ้าน เภสัชกรชุมชนคอยติดตามอาการและผลการใช้ยาของผู้ป่วยเป็นระยะ ๆ ตามมาตรฐานการบริบาลทางเภสัชกรรม


ข้อ 8 รายการยาสำหรับ Home Isolation ประกอบด้วย รายการยาจำเป็นสำหรับการรักษาตนเองตามอาการ และยาต้านโควิด-19 ตามแนวทางที่กรมการแพทย์กำหนด ตัวอย่าง รายการยา Home Isolation สำหรับการกักตัว 14 วัน

(1) ยาพาราเซตามอล 500 มิลลิกรัม สำหรับลดไข้ แก้ปวด จำนวน 30 เม็ดรับประทาน ครั้งละ 1 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง เวลามีไข้

(2) ยาเด็กซ์โทรเมทอร์แฟน สำหรับแก้ไอแห้ง จำนวน 30 เม็ดรับประทาน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง หลังอาหารเช้า กลางวัน และเย็น

(3) ยาอะเซทิลซีสทีน สำหรับละลายเสมหะ จำนวน 20 เม็ดหรือ 20 ซองละลายยา 1 เม็ด หรือ 1 ซอง ในน้้ำ 1 แก้วรับประทาน วันละ 1 ครั้ง หลังอาหารเช้า หรือ เย็น

(4) ยาคลอเฟนนิรามีน 4 มิลลิกรัม สำหรับลดน้ำมูก จำนวน 30 เม็ดรับประทาน ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง หลังอาหารเช้า

(5) ผงเกลือแร่ ORS สำหรับท้องเสีย จำนวน ๕ ซองละลายผงเกลือแร่ 1 ซองในน้ำ 1 แก้ว จิบแทนน้ำ เมื่อท้องเสียน้ำเกลือแร่ไม่ควรเก็บเกิน 24 ชั่วโมง

(6) ยาฟ้าทะลายโจร สำหรับลดไข้ แก้เจ็บคอและต้านเชื้อโควิด-19 จำนวน 60 เม็ดรับประทาน ครั้งละ 3- 4 เม็ด วันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน(โดยให้มีปริมาณของ Andrographolide 180 มิลลิกรัมต่อวัน)

(7) ยาฟาวิพิราเวียร์ 200 มิลลิกรัม สำหรับต้านเชื้อโควิด-19 จำนวน 50-64 เม็ดวันแรก รับประทาน ครั้งละ 9 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น วันที่ 2- 5 รับประทาน ครั้งละ 4 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น

กรณีน้ำหนักตัว มากกว่า 90 กิโลกรัม

วันแรก รับประทาน ครั้งละ 12 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็นวันที่ 2- 5 รับประทาน ครั้งละ 5 เม็ด วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารเช้าและเย็น

(8) รายการยาอื่น ๆ ตามแนวทางการรักษาโรคโควิด-19 ของกรมการแพทย์

ข้อ 9 ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงมากขึ้นถึงขั้นที่ไม่สามารถดูแลตนเองได้ เภสัชกรชุมชนจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งต่อผู้ป่วยไปรักษายังสถานพยาบาลต่อไป

ข้อ 10 ให้นายกสภาเภสัชกรรมเป็นผู้รักษาการตามประกาศนี้ ในกรณีที่มีปัญหาในการตีความหรือในกรณีที่มีปัญหาในการปฏิบัติตามประกาศนี้ ให้นายกสภาเภสัชกรรมเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาด

ในกรณีที่นายกสภาเภสัชกรรมเห็นสมควรอาจเสนอให้คณะกรรมการสภาเภสัชกรรมเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดคำวินิจฉัยของนายกสภาเภสัชกรรมหรือของคณะกรรมการสภาเภสัชกรรม แล้วแต่กรณีให้ถือว่าเป็นที่สุด






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.