จากกรณีมีผู้ปกครองรายหนึ่ง ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กเผยรูปลูกสาววัยประมาณ 2 ขวบ โดยที่แขนขวามีรอยเขียวช้ำ พร้อมโวยถึงทางโรงเรียนว่ามีการนำครูป่วยทางจิตเวช ที่ประเมินไม่ถ่าย แถมมีประวัติทำร้ายร่างกายเด็ก มาสอนเด็น 2 ขวบ

          ล่าสุดวานนี้ (23 สิงหาคม ) นางกมลชนก บุดดี ผู้ปกครองของ น้องมาย (นามสมมติ) วัย 2 ขวบ ซึ่งเป็นผู้โพสต์เฟซบุ๊กดังกล่าว ได้เผยกับอมรินทร์ ทีวี ว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (19 สิงหาคม) ตนได้ไปรับหลานสาวที่ฝากเลี้ยงไว้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลหนองมะโมง อ.หนองมะโมง จ.ชัยนาท เข้าไปที่ห้องเห็นหลานนอนคว่ำหน้าอยู่ ตนจึงจะเข้าไปอุ้ม แต่ตอนนั้นมีครูรายหนึ่งซึ่งถูกระบุว่ามีอาการป่วยทางจิต เดินเข้าไปใกล้หลาน เมื่อเด็กเห็นครูก็ร้องไห้เสียงดังและมีอาการผวา ตนจึงรีบเข้าไปนำตัวหลานกลับบ้าน

 

          ตนยอมรับว่าตกใจที่หลานมีพฤติกรรมผิดปกติ จากที่เป็นเด็กร่าเริง ซุกซน แต่วันนั้นกลับมีอาการซึม จนต่อมาตนถึงสังเกตเห็นว่าแขนขวาของหลานมีรอยเขียวช้ำ คล้ายถูกบิดรุนแรง จึงมั่นใจว่าจะต้องเป็นฝีมือครูคนดังกล่าวแน่นอน เพราะครูคนนี้เคยมีประวัติว่ามักจะเกิดอาการเครียด และทำร้ายเด็กที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมาแล้วหลายแห่ง  

          อย่างไรก็ตาม เมื่อตนกลับไปถามเรื่องจากทางศูนย์ฯ กลับอ้างว่าเด็กเล่นกัดกัน ทั้งที่รอยเขียวช้ำนั้นไม่น่าจะเกิดจากการกัดกันแน่ ๆ อีกทั้งเมื่อสอบถามผู้ปกครองคนอื่น ก็ทราบว่ามีคนเคยเห็นครูรายนนี้หยิกเด็กมาแล้ว

          จากสิ่งที่เกิดขึ้น ตนจึงขอเรียกร้องให้ย้ายครูคนดังกล่าวออกจากศูนย์ฯ เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของเด็ก ๆ เพราะมีการปล่อยให้ครูซึ่งมีอาการป่วยทางจิตมาสอน โดยตนได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาทไว้แล้ว

นางกมลชนก ย้ำว่า ตนเข้าใจว่าครูป่วย ไม่ได้อยากเอาเรื่องอะไร แค่อยากให้ย้ายใครูไปทำงานแผนกอื่น ไม่ใช่มาอยู่กับเด็กเล็ก ๆ เช่นนี้ และหากไม่มีการย้ายครูคนดังกล่าวออกไป ตนก็จะให้หลานสาวไปเรียนที่อื่นแทน   ทางด้าน นายคณิศร แอแปปัญญะ ปลัดเทศบาลตำบลหนองมะโมง เผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ปกครองแล้ว พร้อมแนะนำให้ไปแจ้งตำรวจ แต่เบื้องต้นจะมีการเรียกครูรายดังกล่าวและบุคคลากรที่เกี่ยวข้องมาสอบข้อเท็จจริงก่อน ว่าข้อกล่าวหามีมูลหรือไม่ ซึ่งถ้าพบว่ากระทำผิดจริงก็จะดำเนินการตามขั้นตอนมาตรการลงโทษต่อไป

          ทั้งนี้ จากการตรวจสอบยอมรับว่า ครูคนดังกล่าวเคยเข้ารับการรักษาอาการป่วยทางจิตเวชจริง เมื่อประมาณครึ่งปีที่ผ่านมา แต่ตนไม่ทราบผลทางการแพทย์ว่ามีอาการป่วยมากน้อยเพียงใด แต่หากพบว่ามีอาการป่วยจนไม่สามารถสอนเด็กได้ ก็จะต้องพิจารณายกเลิกการจ้าง