วันที่ 23 ส.ค. 64 นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19ของจังหวัดสุพรรณบุรี ช่วง2-3วันมานี้น่าพอใจขึ้นมาเล็กน้อยเนื่องจากผู้ติดเชื้อลดลงจากที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อจำนวน 200 กว่าติดต่อกันนับเดือนแต่ระยะ1สัปดาห์ที่ผ่านมาผู้ติดเชื้อลดลงเหลือหลักร้อยขณะที่ผู้ป่วยที่หายแล้วออกจากโรงพยาบาลวันละประมาณ 200กว่าราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยหายแล้วมากกว่าผู้ป่วยใหม่จึงทำให้เรามีเตียงในโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้นทราบว่าขณะนี้เรามีเตียงว่างอยู่ประมาณ 80 เตียงถือว่าเป็นข่าวดีจากที่ช่วงหนึ่งเตียงเราไม่พอรับผู้ป่วยเราต้องเพิ่มเตียงเพราะเตียงในโรงพยาบาลนั้นสำคัญมากเพราะต้องรับผู้ป่วยที่เป็นสีเหลืองเข้มหรือสีแดงคือผู้ป่วยที่มีอาการหนักจำเป็นต้องอยู่ในโรงพยาบาลจนต้องให้โรงพยาบาลแต่ละแห่งขยายเตียงเพิ่มแต่วันนี้สถานการณ์เราดีขึ้น ตนคิดว่าจากความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนโดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือกับทางราชการเป็นอย่างดีทำให้สถานการณ์ดีขึ้นตนก็อาจจะขอปรับขอผ่อนคลายมาตรการต่างๆทางเศรษฐกิจเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติมากยิ่งขึ้นกว่าตอนที่เป็นพื้นที่สีแดงเข้มยืนยันว่าขณะนี้เตียงเรามีพอ

ส่วนมาตรการการตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกแนวคิดการทำงานของสุพรรณบุรีเราคิดว่าถ้าตรวจเร็วรู้เร็วเราสามารถกันคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงได้เร็วเราก็จะสามารถจำกัดวงการระบาดที่อาจจะมีขึ้นในอนาคตได้ง่ายขึ้นที่ผ่านมาเราได้ปฏิบัติการเชิงรุกมาอย่างต่อเนื่องมาตลอดและได้รับความอนุเคราะห์จาก อบจ.สุพรรณบุรี สนับสนุนชุดตรวจ ATK ชุดตรวจแบบเร็วมาให้ 20,000 ชุดและครั้งนี้เราจะปูพรมตรวจให้เยอะที่สุดและ อบจ.ก็ได้สนับสนุนชุดตรวจ ATK มาให้อีก 100,000 ชุดประกอบกับมูลนิธิบรรหาร-แจ่มใส ศิลปอาชา ได้ให้รถชีวะนิรภัย ซึ่งเป็นรถที่เข้าไปตรวจในชุมชนต่างๆได้ มา 1คันเราจึงหารือกับทีมงานสาธารณสุขจังหวัดว่าเราต้องออกตรวจเชิงรุกให้มากๆเพราะเรามีเครื่องมือแล้วและได้กำหนดดีเดย์ เปิดยุทธการเชิงรุกให้ครอบคลุมทั่วทั้งจังหวัดสุพรรณบุรี ในวันอังคารที่ 24 สิงหาคมนี้ ซึ่งถ้าใช้ชุด ATK ตรวจแล้วผลตรวจเป็นบวกก็จะทำการสวอป (Swab test)แล้วส่งตัวที่ทำสวอป (Swab test)ไปวิเคราะห์ ที่โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช หรือโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 ส่วนตัวคนที่สวอป ก็จะนำเข้าที่กักตัวคือศูนย์แรกรับ ATK ของแต่พื้นที่ซึ่งมีทั้ง CQ และ CI ไว้รองรับทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่ตรวจแล้วผลเป็นบวกกลับไปอยู่รวมกับชุมชนและครอบครัว สำหรับเป้าหมายที่สำคัญที่จะตรวจเชิงรุกของจังหวัดนั้นมีอยู่ประมาณ 2,500 คนนอกจากนี้เป้าหมายของแต่ละอำเภอทุก รพ.สต.ก็จะมีเป้าหมายของตัวเองอีกต่างหากสำหรับพี่น้องประชาชนที่จะเข้ารับการตรวจขอให้รอฟังข่าวจากทาง รพ.สต.แต่ละแห่งว่าจะกำหนดตรวจวันไหน