วันนี้ ( 24 ส.ค.64 ) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติกรอบวงเงิน 3,500 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากใน 12 จังหวัด เน้นการจ้างงานและพัฒนาพื้นที่โดยตรง ทั้งภาคการท่องเที่ยว พัฒนากลุ่มสินค้าบริการร้านค้า เพิ่มประสิทธิภาพ ด้านการเกษตร สร้างทักษะแรงงานและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวม 2,186 โครงการ 

ครม.รับทราบการปรับแก้ไขโครงการการดำเนินงานตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ที่เคยอนุมัติไปแล้ว ให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยการให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายโครงการกำลังใจ จากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือนสิงหาคม 2564 ขยายการเบิกจ่ายไปจนถึงเดือนธันวาคม 2564 เนื่องจากขณะนี้ยังมีผู้ที่อยู่ระหว่างการยื่นเอกสารและรอการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางภายใต้โครงการกำลังใจ เพื่อให้การเบิกจ่ายครบถ้วนมากขึ้น 

พร้อมกันที่นี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้ ททท. พิจารณาความเหมาะสมของช่วงเวลาที่จะดำเนินโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” และโครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย”   โดยพิจารณาให้เหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 พร้อมกำหนดเงื่อนไขรายละเอียดการดำเนินโครงการให้เหมาะสม แต่หากพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่สามารถเริ่มต้นดำเนินการทั้ง 2 โครงการ ได้ภายในเดือนตุลาคม 2564 ก็สามารถเสนอพิจารณาขอยุติโครงการได้เช่นกัน พร้อมให้คืนกรอบวงเงินกู้ที่เหลือจ่ายตามขั้นตอนระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี รวมถึงการอนุมัติให้ขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการพัฒนาเมืองเชียงใหม่ หรือคิดถึงเชียงใหม่ ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายนนี้ขยายถึง 31 ธันวาคม 2564

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังได้อนุมัติให้กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข  ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการยกระดับศูนย์อนามัย หรือหน่วยบริการอนามัยทั่วประเทศให้มีศักยภาพในการรองรับการแพร่ระบาดโควิด-19 จากเดิมโครงการดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือนมิถุนายน – กันยายน 2564 โดยให้ขยายไปจนถึงเดือนธันวาคม  2564 เพื่อให้หน่วยหน่วยบริการอนามัยมีศักยภาพในการรองรับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ สอดคล้องกับสถานการณ์