เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ สภ.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร นายสมศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 11 ต.ละแม อ.ละแม พร้อมด้วยลูกสาว อายุ 14 ปี เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท. ภูวิช ศรีคุ้ม พงส.สภ.ละแม หลังจากถูกแก๊งหลอกโอนเงินทางอินเตอร์เน็ต ได้หลอกให้โอนเงินไปหลายแสนบาท

ต่อมาที่บ้านที่ ต.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร  ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ม.11 นายสมศักดิ์ พร้อมกับ ด.ญ.จอย (นามสมมุติ) ลูกสาว ของ ผญบ. ร่วมกันเปิดเผยรายละอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า "นายสมศักดิ์" นอกจาก จะเป็น ผญบ. แล้ว มีอาชีพรับซื้อทุเรียนหมอนทองจากชาวสวนทุเรียนในหลายอำเภอ พร้อมด้วยภรรยา มักจะออกตระเวนซื้อทุเรียนเพื่อทำไปส่งขายให้กับแม่ค้า ในการซื้อทุเรียนมักจะใช้วิธีโอนเงินจากบัญชีของตนเอง ไปยัง บัญชีของชาวสวนทุเรียนที่ตนเองไปซื้อทุเรียน แต่มักเกิดปัญหาทางด้านการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชัน เนื่องจากในหลายสถานที่ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตจากมือถือ จึงให้โทรศัพท์มือถือที่มีแอพ ฯ ของธนาคารที่ใช้เบิกจ่ายให้ กับ ด.ญ.จอย เป็นผู้ถือไว้ที่บ้าน จึงอยากให้ลูกสาวได้ช่วยทำงานบ้างเล็กน้อยนอกจากการเฝ้าบ้านและเรียนออนไลน์แล้ว ในระยะเปิดแอปพลิเคชันให้สามารถโอนเงินได้ ครั้งละไม่เกิน 20,000 บาท แต่เมื่อการค้าทุเรียนมีจำนวนมากขึ้น จึงได้เพิ่มวงเงินการโอนเป็นวันละ 500,000 บาท ถึงแม้ตนเองจะมีเงินบัญชีเพียงแสนกว่าบาท ต่อมาเมื่อวานนี้ช่วงเย็น เมื่อกลับมาบ้าน พบว่าลูกสาวนอนร้องไห้ เข้าไปสอบถามก็ ไม่พูดจา สักพักภรรยาได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ลูกสาวถูกแก๊งหลอกโอนเงินให้ หมดไป 330,000 บาท จนเหลือในธนาคารเพียงไม่กี่บาทเท่านั้น

 

ด.ญ.จอย เล่าว่า "ในขณะที่กำลังเล่นเฟซบุ๊กในมือถือ ได้มีหน้าจอเด้งขึ้นมาเพื่อชวนให้ลงทุน ด้วยการฝากเงินเพียง 200 บาท จะได้คือ 1,000 บาท และ สามารถถอนเงินสดได้ทันที ด้วยความอยากเห็นพ่อแม่มีเงินเยอะขึ้น จึงตัดสินใจเข้าไปคุยกับเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ซึ่งก็ได้รับการหว่านล้อมให้ร่วมเล่น ปั่นเกม และให้โอนเงินเข้าบัญชีชื่อ นาตยา ปานสุวรรณ ธนาคารไทยพาณิชย์ ครั้งละหลายพันบาท พร้อมแจ้งยอดว่า มียอดที่ถอนได้หลักหมื่นบาท และคะยั้นคะยอให้โอนเพิ่มเป็นครั้งละแสนบาท พร้อมแจ้งบอกว่า มียอดที่ถอนได้ร่วมห้าแสนบาท เวลาผ่านไปร่วม 1 ชม. ด.ญ.จอย พยายามให้แก๊งเหล่านั้นโอนเงินคืน แต่จนแล้วจนรอด แก๊งเหล่านั้นก็ไม่ยอมโอนเงินคืน จึงรู้แล้วว่าถูกหลอกให้โอนเงิน จึงนอนร้องไห้ในห้องนอน จนพ่อกลับมาจากไปซื้อทุเรียน เมื่อเล่าเรื่องให้พ่อฟังจึงไป สภ.ละแม เพื่อให้ตำรวจช่วยแต่ก็ได้เพียงลงบันทึกประจำวัน พร้อมทั้งนัดมาให้ปากคำในวันนี้

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากกลับจากทำสวนทุเรียน เห็นนอนร้องไห้อยู่ จึงไปถามและบอกลูกว่าจะร้องไปทำไมเพราะโตเป็นสาวแล้ว แต่ลูกไม่พูดด้วยและเดินไปหาแม่ ต่อมาเมียของตนได้เดินมาบอกว่า เงินที่อยู่ในบัญชี โดนหลอกให้//โอนไปหมดแล้ว ตอนแรกไม่เชื่อ จึงทำการตรวจจากบัญชี พบว่า เงินหายไป 334,000 บาท จึงไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ และ วันรุ่งขึ้นได้เดินทางไปให้ปากคำกับตำรวจและเชื่อมั่นในฝีมือตำรวจไทย

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าว เรียกได้ว่าสะเทือนใจเด็กและพ่อแม่มาก เพราะแก๊งหลอกลวงนั้นหัวใจทำด้วยอะไรที่มาหลอกเงินที่เป็นเงินก้อนเดียวในครอบครัว ครอบครัวหนึ่ง อย่างครอบครัวของผม ผมทำงานมาตลอดเป็นปี โดยที่ไม่ฉ้อโกงใคร แก๊งหลอกลวงแบบนี้ไม่น่าจะมีในเมืองไทย และขอให้คนไทยระมัดระวังตัว อย่าให้ลูกหลานเล่น อินเตอร์เน็ตเพียงลำพัง โดยเฉพาะเกี่ยวกับแอปธนาคาร ผมเชื่อในฝีมือตำรวจไทยว่า เงินของผมจะต้องได้คืนมาสามแสนกว่าบาท ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยติดตามคดีให้ด้วย ครอบครัวผมไม่ใช่คนร่ำรวยมีเงินทั้งครอบครัวเพียงเท่านี้