น้ำป่าไหลทะลักท่วม ! "บ้านเรือน" พังเสียหาย - สองพ่อลูกกัมพูชาเสียชีวิต
27 ส.ค. 2564, 06:48
เวลา 16.30 น. วันที่ 26 สค 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ. วิทยา จำเริญสัตย์ รองสารวัตร( สอบสวน) สภ.สำนักทอง อ.เมืองระยอง ได้รับแจ้ง มีเหตุแรงงานต่างด้าวถูกน้ำพัดเสียชีวิต หลังรับแจ้ง จึงประสานแพทย์เวร รพ. ระยอง และเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างพรกุศลระยอง ที่เกิดเหตุอยู่ในสวนยาง เส้นทางเข้าไปถึงยากลำบากต้องใช้รถโฟว์วิน อยู่ตีนเขามะกอก หมู่4 ตำบลสำนักทอง อำเภอเมือง ระยอง สภาพต้นไม้ทั้งขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก ล้มระเนระนาด มีกองหิน และต้นไม้ที่หักโค่นถูกน้ำพัดลงมาจากบนยอดเขา พบศพชายถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ทับที่แขน ศพอยู่ในลักษณะตะแคง ไม่มีเสื้อผ้า คาดว่าถูกน้ำพัดจนหลุดหายไป ทราบชื่อต่อมา คือ นาย ชาย อายุ 22 ปี ชาวกัมพูชา และยังมีเด็กชาย เวสนา อายุ 2 ปี ลูกชายที่หายไป เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพรกุศล และชาวบ้านกำลังช่วยกันค้นหา
จากการสอบถามนายกวน อายุ 38 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ผู้ตายเป็นลูกชาย มีบ้านอยู่บนเขาที่เกิดเหตุ แต่อยู่คนละฝั่งกับบ้านของตน มารับจ้างกรีดยาง โดยลูกชายอาศัยอยู่กับนางกะเติม ภรรยา และเด็กชายเวสนา ลูกชาย เมื่อคืน เข้านอนกันเวลา ประมาณ 5ทุ่ม ฝนตกทั้งคืน พอช่วงประมาณ ตีหนึ่ง ได้ยินเสียงโครม เห็นน้ำป่าไหลมาอย่างแรง พัดบ้านลูกชาย ซึ่งเป็นบ้านปูนพังทั้งหลัง นางกะเติมลูกสะใภ้ จมโคลนไม่ได้ถูกน้ำพัด แต่ลูกชายของตนและหลานวัยสองขวบถูกน้ำพัดหายไป รุ่งเช้า ได้นำนางกะเติมส่งรักษา ทำแผนที่อนามัย และได้ออกตามหาอีกสองคนที่หายไป จนกระทั่งมาพบว่าเสียชีวิตอยู่ตีนเขาไกลจากบ้าน3กิโล น้ำพัดร่างลงมาติดขอนไม้ใหญ่ ส่วนหลานชายยังหาไม่พบ
ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ คาดว่า เมื่อคืนมีฝนตกลงมาอย่างหนัก น้ำป่าไหลหลากพัดบ้านผู้ตายที่ปลูกอยู่บนเขาพัง ฝ่ายพ่อน่าจะกอดลูกชาย ขณะที่น้ำพัดแรง จนเสียชีวิต
นอกจากนี้ กระแสน้ำยังไหลหลากเข้าท่วมถนนและตลาดสังขฤกษ์ ตำบลสำนักทอง อำเภอเมืองระยอง ถนนสายสังขฤกษ์ -สำนักทอง รถเล็กสัญจรผ่านไม่ได้ บ้านเรือน และร้านค้าต่างได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม เป็นจำนวนมาก
อัจฉรา วิเศษศรี จ.ระยอง