"ชาวโจ่คีพื่อ" 12 ครอบครัว สกัดเชื้อโควิด -19 โดยใช้กฎของหมู่บ้าน
27 ส.ค. 2564, 11:26
วันที่ 27 ส.ค. 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า บรรดาผู้ชายชาวบ้านโจ่คีพื่อ ที่ตั้งอยู่ในแนวชายแดนเขตป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ ร่วมกันจัดตั้งด่านตรวจทางเข้าหมู่บ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกเดินทางเข้าหมู่บ้าน
นอกจากนั้น ยังตรวจสอบชาวบ้านที่จะเดินทางออกนอกหมู่บ้าน โดยจะอนุญาตให้เฉพาะกรณีที่ไปไร่ ไปสวน ที่อยู่รอบๆหมู่บ้าน หรือเข้าป่าหาผัก ตกปลา เพื่อการยังชีพ
บ้านโจ่คีพื่อ เป็นกลุ่มบ้านของหมู่บ้านสะเนพ่อง หมู่ที่ 1 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร (ด้านตะวันตก) มีประชากรทั้งหมด 45 คน จาก 12 ครอบครัว โดยประชากรที่นี่ประกอบอาชีพทำไร่ข้าว และ สวน และ เลี้ยงสัตว์จำพวกวัว เพื่อไว้ใช้แรงงาน โดยบ้านทั้ง 12 หลัง ปลูกสร้างกระจัดกระจายกันไปสลับกับที่สวนและนา นอกจากนั้นเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน หลายครอบครัว พากันไปอาศัยอยู่ในไร่ ในนา เพื่อดูแลต้นข้าว และ กำจัดวัชพืช ทำให้บ้านหลายหลังในหมู่บ้านถูกปิดทิ้งไว้ โดยไม่มีผู้อยู่อาศัย นอกจากนั้นเมื่อเริ่มมีข่าวโรคไวรัสโคโรน่า 2019 (covid-19) ระบาด ชาวบ้านที่นี่ แทบไม่เดินทางออกไปนอกหมู่บ้าน จะมีก็เพียงคนที่จำเป็นต้องออกไปซื้อของใช้จำเป็นในครัวเรือน เช่น น้ำมัน เกลือ น้ำตาล ชูรส ซึ่งในการออกไปแต่ละครั้งทุกคนก็จะฝากกันซื้อเข้ามา
ส่วนคนที่ไปซื้อของก็จะเลือกไปซื้อจากร้านค้าที่อยู่บริเวณปากทางเข้าน้ำตกตะเคียนทอง ซึ่งเป็นร้านค้าขายของชำเล็กๆ ที่มีคนไม่มาก โดยเลี่ยงที่จะไปซื้อในตลาดสังขละบุรี หรือ ตลาดสดบ้านพระเจดีย์สามองค์ เนื่องจากมองว่า ไม่ปลอดภัย เนื่องจากเป็นพื้นที่ระบาดของโควิต-19 และผู้คนพลุกพล่าน
ปกติในช่วงกลางวัน หมู่บ้านจะมีเพียงผู้หญิงและเด็ก เนื่องจากผู้ชายส่วนใหญ่จะไปทำไร่ ทำนา หรือ ไม่ก็เลี้ยงวัว เมื่ออยู่บ้านผู้หญิงก็จะพากันเข้าป่าข้างๆหมูบ้าน เพื่อหาผักมาประกอบเป็นอาหาร หรือ ไม่ก็พากันไปตกปลา มาทำอาหาร ซึ่งผักที่หาได้ก็มีตั้งแต่ ยอดมะระ ยอดใบส้มป่อย ผักกูด ยอดตดหมูตดหมา หน่อไม้ ลูกลิ้นฟ้า กระชาย ต้นข่าอ่อน และอีกหลายชนิด
ภายหลังจากที่ได้ผักมาก็จะนำมาประกอบอาหารให้คนในครอบครัวได้กิน เช่นหน่อไม้ก็จะนำมาทำแกงตะละเปาะ ต้มส้มป่อยใส่ปลาย่าง ผัดลูกลิ้นฟ้า น้ำพริกรสเผ็ด ที่มียอดตดหมูตดหมา ยอดมะระ ลวกน้ำร้อน หน่อไม้ กระชายสด ผักกูดสด เป็นผักเคียง ซึ่งอาหารที่กินล้วนมีสรรพคุณทางยา เนื่องจากเป็นสมุนไพร เช่นตดหมูตดหมา เป็นยาขับลม ยอดมะระที่มีรสขมบำรุงตับ ป้องกันมาลาเรีย ดับพิษไข้ กระชาย ข่าอ่อน เผ็ดร้อนช่วยป้องกันหวัด ได้ ข้าวที่กินก็เป็นข้าวปลอดสารเคมี ที่ชาวบ้านปลูกด้วยตัวเอง จึงมีคุณค่าทางโภชนาสูงกว่า ข้าวที่จำหน่ายในท้องตลาดทั่วไป
ดังนั้นอาหารทุกมื้อที่ชาวบ้านที่นี่ กินเข้าไป ก็จะเหมือนกับการกินยา ซึ่งดีต่อสุขภาพของทุกคน ไม่แปลกที่ชาวบ้านที่นี่มีร่างกายที่แข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วย รวมทั้งเด็กๆในหมู่บ้านทุกคน ที่มีแข็งแรง ทั้งร่างกาย และจิตใจ แม้ในหมู่บ้านจะไม่มีใครป่วยด้วยโควิต -19 แต่ชาวบ้านที่นี่ก็เลือกที่จะติดตามข้อมูลข่าวสารเรื่องของโควิต -19 เพื่อเป็นการหาความรู้ ในการป้องกันตัว
ทุกๆคืนหลังจากก่อนอาหารเย็นเป็นที่เรียบร้อย นายหนุ่ม และ ภรรยา ก็จะใช้เวลาพักผ่อนด้วยการดูโทรทัศน์ เพื่อติดตามข่าวทั่วไป รวมทั้งข่าวโควิต -19 โดยมีเพื่อนบ้าน 1-2 คน ที่บ้านอยู่ใกล้กันมานั่งดูด้วยความสนใจ โดยเฉพาะช่วงนี้เริ่มมีข่าวการรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันโควิต-19 ซึ่งนายหนุ่ม กำลังคิดที่จะชวนเพื่อนบ้านในหมู่บ้านที่อยู่ในเกณฑ์ ที่รับวัคซีนได้ เดินทางไปรับวัคซีน ที่อนามัยใกล้หมู่บ้าน
นอกจากนั้นผู้สูงอายุ ในหมู่บ้านที่มีองค์ความรู้เรื่องสมุนไพร ก็จะนำยาสมุนไพรที่หาได้จากในป่า และ ที่ปลูกไว้ ในสวน มาต้มเพื่อให้สมาชิกในครอบครัว รวมทั้งเพื่อนบ้านได้กิน เพื่อป้องกัน ตามที่ได้รับองค์ความรู้ มาจากบรรพบุรุษ ด้วยความสามัคคี ด้วยสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย การใฝ่รู้ และองค์ความรู้ที่มี ทำให้จนถึงวันนี้หมู่บ้านโจ่คีพื่อ ยังปลอดภัยจากโควิต -19