จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เชียงใหม่ ได้มีการจับกุมแก๊งพระสงฆ์ที่รวมตังกันกินหมูกระทะและดื่มเบียร์ ภายในวัดปันเสา อ.เมือง จ.เชียงใหม่

โดยพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ได้ดำเนินคดีกับ 1.พระครูปลัดสุรเดช สายแผ่เยือง อายุ 34 ปี เจ้าอาวาสวัดยางกวง ต.หายยา อ.เมืองเชียงใหม่ , 2.พระครูมนูญธรรมศาสถ์พุทธกร วิมุติญาณกุง อายุ 41 ปี เจ้าอาวาสวัดหัวฝาย ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่, 3.พระอธิษฐณัฏฐ์ ปัญญาอินแก้ว อายุ 34 ปี เจ้าอาวาสวัดบ้านปิง ต.ศรีภูมิ อ.เมืองเชียงใหม่ , 4.พระภานุกร คำป็อก อายุ 42 ปี เจ้าอาวาสวัดปันเสา, 5.พระใบฏีกายนนนท์ ปัญญาปโตยานนท์ประทุม อายุ 35 ปี 6.พระทักษิณ ศรีธิ อายุ 36 ปี พระลูกวัดปันเสา 7.นายจรัสวลี ราชสมบัติ อายุ 23 ปี และ 8.นายสหการ สมศักดิ์ อายุ 25 ปี ในข้อหาร่วมกันชุมนุมมั่วสุ่มหรือทำกิจกรรม ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัดหรือสถานที่อื่นในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ที่ 60/2564 และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ มีของกลางเป็นกระป๋องเบียร์เปิดแล้ว จำนวน 5 กระป๋อง และ ที่ยังไม่ได้เปิดอีก 3 กระป๋อง และเครื่องดื่มไวน์อีก 3 ขวด ที่ยังไม่ได้เปิด

 

 

จังหวัดแล้ว ในส่วนของพระครูปลัดสุรเดช, พระครูมนูญธรรมศาสถ์พุทธกร, พระอธิฐณัฏฐ์  และ นายสหการ ยังถูกแจ้งข้อหาเพิ่มในข้อหาบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัดหรือสถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนาอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 พร้อมนำผู้ต้องหาทั้งหมดส่งฟ้องศาลแขวงเชียงใหม่ ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา

และล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ศาลแขวงเชียงใหม่ ได้มีคำตัดสินให้จำเลยข้อหาร่วมกันชุมนุมมั่วสุ่มหรือทำกิจกรรม ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัดหรือสถานที่อื่นในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ที่ 60/2564 และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ ทั้ง 8 ราย ต้องโทษจำคุก 15 วัน ให้รอลงอาญา 1 ปี และ ปรับคนละ 10,000 บาท

ส่วนในข้อหาบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัดหรือสถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนาอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ศาลมีคำตัดสินให้จำเลยทั้ง 4 ราย โดนโทษปรับ 2,500 บาท 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการที่จะต้องขาดจาดการเป็นพระหรือไม่ ขณะนี้ต้องรอคำตอบจากเจ้าคณะอำเภอเมืองเชียงใหม่ ในการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ต่อไป