กองปราบฯรับลูกดูสำนวนคดี อดีตผกก.โจ้ สรุปแบ่ง 2 คดี "อุ้มซ้อมผู้ต้องหา-พ่วงตรวจสอบทรัพย์สิน"
31 ส.ค. 2564, 09:18
วันที่ 31 ส.ค. 64 รายงานจาก พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รองผบช.ก.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมพวกรวม 7 นาย ซ้อมทรมานผู้ต้องหาคดียาเสพติด ว่า ขณะนี้ได้รับคำสั่งจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้โอนสำนวนคดีดังกล่าวมาอยู่ในความรับผิดชอบของ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) วันนี้จึงมีการเรียกประชุมชุดสืบสวนและพนักงานสอบสวนกองปราบปรามฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแบ่งหน้างานความรับผิดชอบ
พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นแบ่งการทำงานออกเป็น 2 เรื่อง คือ เรื่องการซ้อมทรมานผู้ต้องหาจนเป็นเหตุถึงแก่ความตาย ส่วนนี้จะเป็นกองปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบ และเรื่องการตรวจสอบเส้นทางการเงินและที่ไปที่มาทรัพย์สินต่างๆของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ในส่วนนี้จะให้ทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เป็นผู้ดำเนินการ
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวว่า ได้รับการประสานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เช้ามาช่วยตรวจสอบคดีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ด้วย เนื่องจากเป็นความผิดที่เกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 "ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” ซึ่งหลักๆจะดูในเรื่องเกี่ยวกับการตรวจสอบกรณีรถหรูที่ มีข่าวว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อาจจะลักลอบนำเข้ารถจากมาเลเซียและปั้นคดีว่าจับรถเถื่อน ก่อนส่งต่อกรมศุลกากรนำไปขายทอดตลาดจนได้เงินรางวัลนำจับ แล้วให้พรรคพวกในกลุ่มผู้ประกอบการจำหน่ายรถหรูมาประมูลช้อนซื้ออีกครั้ง เพื่อนำไปขายต่อเก็งกำไร เพื่อดูว่านำเข้ารถเหล่านี้มาได้อย่างไร มีใครเกี่ยวข้องกับขบวนดังกล่าวบ้าง
แหล่งข่าวชุดสืบสวน กรณีการตรวจสอบที่ไปที่มาของปมทุจริตจับรถหรู มีการตั้งข้อสังเกตว่าเพราะเหตุใด พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ถึงสามารถปั้นคดีจับรถหรูส่งให้กับทางกรมศุลกากรได้ถึงกว่า 300 คัน จึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากรเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ซึ่งจะมีการย้อนตรวจสอบอย่างละเอียดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดจริง ก็จะมีการเชิญตัวเจ้าหน้าที่เหล่านี้มาสอบปากคำดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป