"ชลน่าน" จวก "ประยุทธ์" บริหารโควิดล้มเหลว กดตัวเลขผู้ติดเชื้อก่อนซักฟอก จ่อฟ้องปปช.เอาผิดถึงที่สุด
31 ส.ค. 2564, 19:50
วันนี้ ( 31 ส.ค.64 ) การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน "ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล" วันแรก ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ในช่วงเย็นเป็นคิวของ นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน จากพรรคเพื่อไทย ได้ทำการอภิปราย โดยเริ่มด้วยเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หากมีจิตสำนึกในการดูแลประชาชน และประเทศชาติบ้านเมือง ตัวเลขผู้ป่วย และผู้เสียชีวิต หากมีจิตสำนึกที่ดีเหตุการณ์วันนี้จะไม่เกิดขึ้น จากนั้น นพ.ชลน่าน ได้ประกาศกลางสภาฯนำ ขอให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยืนขึ้นเพื่อร่วมทำพิธีไว้อาลัยพร้อมแผ่เมตตาแด่ดวงวิญญาณทุกดวงที่สูญเสียจากโควิด-19 พร้อมกับยืนสงบนิ่ง
จากนั้น นพ.ชลน่าน ได้อภิปรายต่อถึงการบริหารที่ผิดพลาด ล้มเหลว ของพลเอกประยุทธ์แบ่งเป็น 3 ประการ ประการแรก คือ ไร้ภูมิปัญญา ไร้วิสัยทัศน์ ไม่มีความรู้ความสามารถ ประการที่สอง รวบอำนาจหลงตัวเอง เสพติดอำนาจ เป็นโรคโอหังคลั่งอำนาจ ภายใต้จอมสั่งการทำให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดนี้ เป็น ครม.เป็ดง่อย เป็นตรายางเท่านั้น ไม่มีโอกาสออกนโยบายด้วยตนเองเลย เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ออกข้อสั่งการมากที่สุดในโลก เอาทหารมาเป็นหมอรักษาโรค มีแต่ป่วยกับตาย ไม่สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่
ประการที่สาม ทุจริตหากินบนความตายของประชาชน เรียกได้ว่า โง่ บ้า โกง ตนไม่กล้าเรียก พล.อ.ประยุทธ์ ว่าเป็นผู้นำประเทศไทย เพราะเขาเป็นแค่ผู้สั่งการ แต่ไร้ภาวะผู้นำในภาวะวิกฤต สื่อสารกับประชาชนผิดพลาดอย่างร้ายแรง พล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายให้โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า-2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. โฆษกรัฐบาล รวมถึงทีมงาน ออกมาสื่อสารกับประชาชน ถามว่าเคยออกมาขอโทษ และแสดงความเป็นมนุษย์บ้างหรือไม่ มีแต่โทษประชาชนว่าการ์ดตก
โดย นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ช่วงใกล้การอภิปรายไม่ไว้วางใจท่านสื่อสารโดยการกดตัวเลขผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิต ตั้งแต่เรายื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.-31 ส.ค.ตัวเลขลดลงอย่างสวยงาม และลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ นี่คือการกลบเกลื่อนสร้างภาพ เพื่อความอยู่รอด และความมั่นคงของรัฐบาล ทั้งที่จริงแล้วท่านตรวจน้อยลง นอกจากนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นอธิบดีกรมควบคุมโรคได้รายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดที่สถานบันเทิงย่านทองหล่อ ว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ และนายอนุทิน ไม่ดำเนินการใดๆ ยอดผู้ติดเชื้อจะเพิ่ม 1 หมื่นรายต่อวัน แปลว่าท่านรู้อยู่แก่ใจว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร แต่ท่านกลับปล่อยปละละเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนจะเอาท่านเข้าคุก โดยข้อกล่าวหาที่ 1 คือ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และไม่สุจริต มีพฤติกรรมฉ้อฉลทุจริตต่อหน้าที่ จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมาย มติครม. และข้อสั่งการนายกฯ เช่น ข้อสั่งการนายกฯ เมื่อวันที่ 21 พ.ค.64 ที่ระบุว่าประชาชนที่ประสงค์ฉีดวัคซีนทุกคนต้องได้ฉีด ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 47 และ 55 กรณีการฉีดวัคซีน การรักษาพยาบาล ไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นการบริการสาธารณสุขของรัฐ และการไม่เข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ แสดงให้เห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ทำตามข้อสั่งการที่ตนเองสั่งมา
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ข้อกล่าวหาที่ 2 ทำระบบสาธารณสุขล้มเหลว ล้มละลาย ข้อกล่าวหาที่ 3 เลือกปฏิบัติ ไม่สร้างการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการจัดหาวัคซีน และข้อกล่าวหาที่ 4 ปฏิบัติ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมาย มติครม. และข้อสั่งการของนายกฯ ในการจัดหา จัดซื้อ ชุดตรวจ ATK โดยหลังการอภิปรายเสร็จสิ้น จะยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อส่งต่อไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นอกจากนี้ ยังจะร้องไปยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางด้วย สุดท้ายนี้ นายกฯ เป็นชายชาติทหารถวายสัตย์ปฏิญาณ ท่านอาจจะมีเจตจำนงที่ดีในการเข้ามาช่วยบ้านเมือง ท่านอาจจะมีมโนธรรมที่ดี อาจจะมีความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ถ้าท่านลาออก 3 เดือนหลังจากนี้ ท่านจะเป็นวีรบุรุษต่อพวกเราทุกคน
ที่มา : แนวหน้า