วันที่ 31 ส.ค. 64 ร.ต.ท.รัฐนนท์ เจียรวนานนท์ ร้อยเวรสภ.โพธาราม  ได้รับแจ้งว่ามีเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันจนเสียชีวิต ที่บริเวณต.คลองตาคต  จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี รักษาการแทนผกก.สภ.โพธาราม ทราบพร้อมทั้งได้สั่งการให้ลงไปตรวจสอบพื้นที่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยสว่างราชบุรี เมื่อเดินทางไปถึงพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ตั้งอยู่เลขที่ 71 ม.1 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี พบนายร่มไทร อารีกิจ อายุ 64 ปี อาชีพผู้ช่วยกำนัน ผู้เป็นพ่อ อยู่ในสภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด พบมีรอยกระสุนปืนยิงเข้าขมับด้านขวาจำนวน1นัด ในมือถือปืนขนาด 11 มม. เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งนำไปส่งโรงพยาบาลโพธาราม ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ใกล้กัน พบร่างอันไร้วิญญาณของนายร่มฉัตร อารีกิจ อายุ 44 ปี ผู้เป็นลูกชาย นั่งอยู่บนเก้าหน้าที่หน้าบ้าน มีร่องรอยถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ด้านบนศรีษะจำนวน 2 นัด 

จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า นายร่มฉัตรติดยาตั้งแต่อายุ 18 ปีและชอบทำร้ายร่างกายพ่อแม่เป็นประจำ จนเมื่อประมาณ 1 ปีก่อน ได้ไปทำงานรับจ้างที่จังหวัดน่านอยู่สักพักหนึ่ง แล้วเพิ่งได้เดินทางกลับมาได้ไม่นานก็อาละวาดทุบตี ทำร้ายร่างกายพ่อแม่อีก จนนายร่มไทร ทนไม่ไหวหลอกนางขวัญใจ ผู้เป็นภรรยาให้ไปแก้มัดวัวเพื่อเอาเข้าคอก ก่อนตัดสินใจคว้าปืนขนาน 11 มม.ของตนเอง จ่อยิงเข้าที่กลางศรีษะของนายร่มฉัตร จำนวน 2 นัด เสียชีวิตทันที ก่อนจะตัดสินใจยิงตัวเองเข้าที่ขมับด้านขวา เสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

นางขวัญใจ อารีกิจ อายุ 62 ปี ภรรยาและแม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ลูกชายไปทำงานที่น่านเพิ่งจะกลับมา มีวันหนึ่งเขาขว้างของตนก็เลยบอกว่าขว้างของทำไมเสียดายของ พอได้ยินดังนั้นนายร่มฉัตร ก็ลุกขึ้นมาต่อยและเตะตนหงายท้อง ตนขาไม่มีก็เลยเรียกลุงออกมาให้ช่วยพยุง นายร่มไทร ก็ถามว่าทำไมทำแม่แบบนั้น เมื่อได้ยิน นายร่มฉัตรก็ต่อย นายร่มไทรอีก และได้ไปแจ้งความ ตำรวจก็ได้มาบอกว่าจะมีหมายเรียกถึงนายร่มฉัตร เมื่อได้ยินดังนั้น นายร่มฉัตรก็พูดขึ้นว่าถ้าใครแจ้งความจับ “จะฆ่ายกบ้าน” ด้วยความกลัวก็เลยโทรไปบอกตำรวจว่าอย่าเอาหมายมานะเขาขู่พูดมาแบบนี้  และนายร่มไทรก็เคยถามตำรวจว่า ถ้ายิงคนตายติดคุกกี่ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ห้ามว่าอย่า ถ้ามีอะไรให้ปรึกษากับตำรวจ หลังจากนั้นก็เก็บกดมาเรื่อย ๆ อาละวาดทุบข้าวของเรื่อยมา