ที่ จ.สุพรรณบุรี นายธรรศ ศรีดุษฎี ปลัดอำเภอ หัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็วปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี  นำกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดน และอส. ออกตรวจพื้นที่และตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยป้องกันผู้ที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 และกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย ป้องกันการลักลอบค้ายาเสพติดโดยตั้งจุดตรวจค้นตามนโยบายของนายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ในพื้นที่ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี

ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตั้งจุดตรวจจุดสกัดอยู่นั้นมีชายต้องสงสัยขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ชายคนดังกล่าวไม่ยอมหยุดกลับเร่งเครื่องหลบหนีเจ้าหน้าที่จึงขับรถติดตามไปอย่างกระชั้นชิดเมื่อเห็นจวนตัวชายคนดังกล่าวได้ขี่รถจักรยานยนต์พุ่งลงไปในคลองซึ่งมีน้ำลึกเกือบ 2 เมตรและจมหายลงไปในน้ำเจ้าหน้าที่จึงรีบค้นหาเพื่อช่วยชีวิตและสามารถช่วยชายคนดังกล่าวขึ้นมาจากน้ำได้อย่างปลอดภัยและเจ้าหน้าที่ได้ประสานมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี มาช่วยนำรถจักรยานยนต์ขึ้นมาจากน้ำด้วยความทุลักทุเลเนื่องจากในคลองเต็มไปด้วยพงหญ้า

จากการตรวจค้นในตัวไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายและทราบชื่อนายวีระพงษ์   สงวนนามสกุล อายุ 43 ปีบ้านอยู่ อ.บางปลาม้า อ้างว่ากลับจากจ่ายค่างวดรถและกำลังจะกลับบ้านเห็นรถของเจ้าหน้าที่ตกใจกลัวจึงเร่งเครื่องหนี เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดพบปัสสาวะเป็นสีม่วงนายวีระพงษ์ รับสารภาพว่าตนเสพยาบ้าจริงแต่เสพเมื่อ 7วันก่อนแต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อจึงทำประวัติไว้เพื่อรอเรียกตัวไปบำบัดรักษาตามกระบวนการ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ย้ายตั้งจุดตรวจที่ถนนสายโพธิ์พระยา-บ้านกร่าง ต.มดแดง อ.ศรีประจันต์ พบรถกระบะสีขาวขับมาตามถนนที่ตั้งจุดตรวจเจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจค้นและให้คนขับลงจากรถเพื่อทำการตรวจค้นและ สอบถามทราบชื่อนายแก้ว นามสมมุติ อายุ 50 ปีเบื้องต้นนายแก้ว เล่าว่าตนมีอาชีพขายปลาหมึกเพิ่งกลับจากบ้านเพื่อน แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อเนื่องจากนายแก้ว ท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงตรวจค้นในรถพบทั้งใบกระท่อม อุปกรณ์เสพยาไฟแช็กแก๊สจำนวนมากและซองพลาสติกใสภายในมียาไอซ์ติดอยู่จึงถ่ายภาพนายแก้ว  พร้อมของกลางที่พบในรถไว้เป็นหลักฐาน  เมื่อจนด้วยหลักฐานนายแก้ว รับว่าเพิ่งเสพยาไอซ์ มาและยาไอซ์ดังกล่าวได้ฝากคนรู้จักกันไปซื้อในราคา 200บาทหลังจากเสพยาไอซ์เสร็จก็จะไปรับลูกชายเพื่อเดินทางไปซื้อปลาหมึกที่ จ.สมุทรสาคร เจ้าหน้าที่จึงบันทึกทำประวัติและพฤติกรรมไว้เป็นหลักฐานเพื่อรอเรียกตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา