ผู้กำกับโจ้ ยืนกรานผู้ต้องหาไม่ได้ตายเพราะถุงคลุมหัว มั่นใจได้ประกันตัวออกมาลุยสู้คดี
1 ก.ย. 2564, 12:53
จากกรณี ผู้กำกับโจ้ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล ถูกดำเนินคดี หลังมีคลิปร่วมกับลูกน้องทรมานผู้ต้องหาคดียาเสพติด กระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งขณะนี้ถูกฝากขังอยู่ที่เรือนจำกลางจังหวัดพิษณุโลก
ล่าสุด วันที่ 1 กันยายน 2564 พล.ต.ท. สราวุฒิ การพานิช รองจเรตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงของสำนักงานจเรตำรวจ เดินทางไปที่เรือนจำกลางจังหวัดพิษณุโลก เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาทางวินัยร้ายแรงกับ ผู้กำกับโจ้และพวก ร่วมกันทําร้ายร่างกาย นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด เพื่อเรียกรับเงิน 2 ล้านบาท จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต และอ้างเหตุว่าผู้ต้องหาเสพยาเสพติดเกินขนาด
ทั้งนี้ ระหว่างที่ทางคณะกรรมการสอบปากคำ ผู้กำกับโจ้ให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า นายจิระพงศ์ ไม่ได้เสียชีวิตที่ห้องปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองนครสวรรค์ อย่างแน่นอน เพราะให้การช่วยเหลือโดยตลอด แต่ยอมรับว่าเอาถุงคลุมหัวจริง ยืนยันไม่มีเจตนาฆ่า เพียงแต่ต้องการให้นายจิระพงศ์ บอกข้อมูลเรื่องยาเสพติดโดยเมื่อพบผู้ต้องหาหายใจไม่ออกและหมดสติไป ก็ได้คลายถุงออกและให้ลูกน้องที่จบหลักสูตรพยาบาลสนามของตำรวจตระเวนชายแดน ช่วยเหลือด้วยการทำซีพีอาร์ และเมื่อจับชีพจรพบว่ายังเต้นอยู่ และเมื่อใช้มืออังที่จมูกพบว่ามียังลมหายใจ ก่อนตัดสินใจนำตัวส่งโรงพยาบาล
เมื่อถึงโรงพยาบาลแล้ว ผู้ต้องหาก็ยังมีลมหายใจ วัดชีพจรปกติ ความดันปกติ ระดับออกซิเจนปกติ และแพทย์ก็ไม่ได้ใส่เครื่องช่วยหายใจ ส่วนการย้ายโรงพยาบาลไปยัง โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ นั้น ผู้กำกับโจ้ยืนยันว่า หากผู้ป่วยอาการหนักถึงขั้นโคม่าจริง แพทย์จะไม่ให้ย้ายโรงพยาบาลให้เกิดความเสี่ยงอย่างแน่นอน
โดยขณะเคลื่อนย้ายผู้ป่วยก็ไม่ต้องใช้ถังออกซิเจนเพื่อช่วยหายใจ แสดงให้เห็นว่าอาการยังไม่หนัก โดยตนได้โทร. ติดตามสอบถามอาการจากทางโรงพยาบาลอยู่ตลอด ได้รับการยืนยันกลับมาทุกครั้งว่านายจิระพงศ์ยังมีชีวิตอยู่ แต่สุดท้ายเสียชีวิตลง น่าจะมาจากสาเหตุอื่น ไม่ใช่การขาดอากาศหายใจจากการถูกถุงคลุมศีรษะ
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ผู้กำกับโจ้มีความมั่นใจด้วยว่า หลังจากนี้อีกสักระยะน่าจะได้รับการประกันตัว โดยจะใช้หลักฐานในประเด็นการเสียชีวิตของผู้ต้องหาที่ยืนยันว่าไม่ได้ทำให้เสียชีวิต อันจะทำให้พฤติการณ์ของคดีเบาลง รวมถึงประเด็นการขอมอบตัวเอง ไม่ได้หลบหนี
ส่วนสาเหตุที่ไม่ยื่นประกันตัวในช่วงนี้ เนื่องจากมีกระแสสังคมกดดันสูง และการรวบรวมพยานหลักฐานของตำรวจยังไม่เสร็จสิ้น ศาลคงไม่ให้ประกันตัว จึงจะขอยื่นประกันตัว หลังจากรวบรวมหลักฐานทำไปได้ระยะหนึ่ง เพราะจะหมดเหตุคัดค้านการประกันที่ว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ถึงตอนนั้นจึงจะให้ทนายความยื่นประกันตัวเพื่อออกมาสู้คดีให้ถึงที่สุดต่อไป