นายกฯ มอบโฆษกรบ.พบปะให้กำลังใจผู้ประกอบการ-ร้านค้า-ห้างเปิดวันแรก
1 ก.ย. 2564, 16:37
วันที่ 1 กันยายน 2564 เวลา 14.30 น. นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมร้านอาหาร Copper ณ The Sense ย่านปิ่นเกล้า ต้นแบบร้านอาหารในยุคโควิด-19 ที่เปิดให้บริการภายใต้ COVID Free Setting เว้นระยะห่าง ระบบระบายอากาศที่ดี มีสุขอนามัยและสะอาดปลอดภัย ผู้ประกอบการและพนักงานฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบตามเกณฑ์และมีการตรวจคัดกรองด้วยชุดตรวจ ATK ซึ่งผู้ประกอบการและพนักงานดีใจได้กลับมาเปิดกิจการเกือบเหมือนปกติ พร้อมขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่เห็นใจและรับฟังเสียงประชาชน ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยร้านอาหารและเครื่องดื่ม
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีห่วงใยการประกอบอาชีพของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ประมาณ 300,000 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนของนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจร้านอาหารกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ “สินเชื่ออิ่มใจ” วงเงิน 2,000 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารหรือเครื่องดื่มที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ระลอกใหม่ ซึ่งได้มีการอนุมัติสินเชื่อไปแล้ว 5,500 ราย รวมวงเงิน 400 ล้านบาท
นายธนกร กล่าวอีกว่า วันนี้เดินทางมาร้านอาหาร Copper ที่เปิดบริการตามมาตรการ COVID Free Environment เป็นร้านอาหารต้นแบบในยุคโควิด-19 ด้วยการยกระดับมาตรการสิ่งแวดล้อม ได้แก่ การเว้นระยะห่าง มีระบบระบายอากาศที่ดี มีสุขอนามัยและสะอาดปลอดภัย ด้านของผู้ประกอบการและพนักงานต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบตามเกณฑ์และตรวจคัดกรองด้วยชุดตรวจ ATK สำหรับลูกค้าที่จะใช้บริการ จะตรวจวัดอุณหภูมิ เช็คอินผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะ แสดงผลตรวจการได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตามเกณฑ์ หรือแสดงผลการตรวจ ATK มีการกำกับดูแลโดยสมาคมภัตตาคารไทยและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ซึ่งมาตรการ COVID Free Environment นี้ ปัจจุบันเป็นการขอความร่วมมือให้ดำเนินการในพื้นที่นำร่องหรือสถานที่ที่มีความพร้อม มุ่งยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 สำหรับให้กิจการ/กิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินการได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน
นายธนกร กล่าวเพิ่มว่า ช่วงที่ผ่านมา แนวโน้มผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีจำนวนลดลง ขณะเดียวกันผู้หายป่วยแล้วเพิ่มจำนวนมากขึ้น รวมทั้งการฉีดวัคซีนที่ทั่วถึงและเพิ่มขึ้นมากขึ้น ณ วันนี้ มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ถึง 32 ล้านโดส ซึ่งมาจากความเชื่อมั่นของภาคเอกชน และประชาชนที่มีต่อมาตรการของรัฐ การปรับมาตรการสำหรับ 1 ก.ย. นี้ เป็นไปเพื่อให้ภาคธุรกิจ เอกชน กลับมาทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้ง มีการเดินทางของประชาชนตามความจำเป็น ซึ่งทั้งหมดนั้นยังต้องเข้มงวดในมาตรการสาธารณสุข ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลจะเดินหน้าเร่งออกมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่กับการคุมโควิด-19 เพื่อให้ภาคธุรกิจและประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตและประกอบการในรูปแบบปกติใหม่ (New Normal) ได้โดยเร็ว