เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2564  กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยภาพรวมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในเรือนจำ/ทัณฑสถานวันนี้ มีเรือนจำสีแดงที่พบการระบาด 39 แห่ง และเรือนจำสีขาวที่ไม่มีการแพร่ระบาด 103 แห่ง โดยไม่พบเรือนจำระบาดใหม่ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 
ขณะที่วันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 356 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 151 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 205 ราย) รักษาหายเพิ่ม 451 ราย เสียชีวิต 1 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 3,557 ราย (กลุ่มสีเขียว 85.9% สีเหลือง 13.3% และสีแดง 0.8%) เป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร 471 ราย ปริมณฑล 523 ราย และต่างจังหวัด 2,563 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 53,075 ราย หรือ 91.2% ของผู้ติดเชื้อสะสม 58,181 ราย เสียชีวิตสะสม 124 ราย คิดเป็นอัตรา 0.2% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด

พบแนวโน้มสถานการณ์การระบาดของกรมราชทัณฑ์เริ่มดีขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการควบคุมการระบาดในเรือนจำและทัณฑสถาน ที่พบเรือนจำระบาดใหม่ค่อนข้างชะลอตัวลง ขณะที่มีเรือนจำสิ้นสุดการระบาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมามีเรือนจำที่สิ้นสุดการระบาด หรือ EXIT สามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ปกติได้แล้วกว่า 15 แห่ง ส่วนเรือนจำสีแดงที่ยังคงพบการระบาดปัจจุบัน มีเพียง 8 แห่งเท่านั้นที่ยังอยู่ระหว่างควบคุมการระบาด ขณะที่อีก 31 แห่งสามารถควบคุมการระบาดได้แล้ว ซึ่งในจำนวนดังกล่าว พบว่า มี 27 แห่งที่อยู่ในกระบวนการรอ EXIT แล้ว และคาดว่าจะสามารถ EXIT ได้ทั้งหมดในเดือนกันยายนนี้ โดยมีเรือนจำไม่น้อยกว่า 15 แห่งที่ได้กำหนดวันสิ้นสุดการระบาดแล้ว เริ่มจากเรือนจำกลางคลองเปรม ที่จะ EXIT ในวันพรุ่งนี้ (3 กันยายน) ส่วนเรือนจำจังหวัดสระบุรี เรือนจำกลางสงขลา และเรือนจำอื่นๆ จะเริ่มทยอย EXIT อย่างต่อเนื่องได้ในระยะต่อไป

โดยยังคงเน้นย้ำการปฏิบัติงานภายใต้กรอบที่วางไว้อย่างเคร่งครัดอยู่เสมอ ทั้งเรือนจำที่ยังไม่เคยพบการระบาดหรือที่สิ้นสุดการระบาดแล้ว โดยเฉพาะมาตรการป้องกันเชื้อ ทั้งจากเจ้าหน้าที่ ผู้ต้องขัง สถานที่ และสิ่งของ ที่ต้องมีความรู้และทำความเข้าใจในหลักการดำเนินงาน พร้อมทั้งหลักระบาดวิทยาของเชื้ออย่างถูกต้อง เพื่อให้สามารถดำเนินการป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ประจำวันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน 2564 ยอดผู้ติดเชื้อสะสมคงเหลืออยู่ที่ 14 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 12 ราย และเยาวชน 2 ราย ด้านผลการดำเนินงานสถานพินิจฯ/ศูนย์ฝึกและอบรมฯ สีขาว มีจำนวน 44 แห่ง จากทั้งหมด 56 แห่ง อีก 12 แห่ง อยู่ระหว่างการรอตรวจและรอผล 1 แห่ง ติดเชื้อ 8 แห่ง และหมดสถานะสีขาว 3 แห่ง ขณะที่สถิติการฉีดวัคซีนของเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้นเป็น 275 ราย หรือคิดเป็น 7% จากทั้งหมด 4,058 ราย และเจ้าหน้าที่ได้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นเป็น 3,795 ราย หรือคิดเป็น 87% จากทั้งหมด 4,375 ราย