"หนุ่มวัย 31 ปี" ปีนตึกอาคาร 3 ชั้น หวังคิดสั้น โชคดี! จนท. เกลี่ยกล่อมสำเร็จ
4 ก.ย. 2564, 07:09
วันที่ 3 ก.ย.64 ศูนย์กู้ภัยสว่างสระบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามี ชายปีนขึ้นไปอยู่ที่หลังอาคารสำนักงานสรรพากร จังหวัดสระบุรี โวยวายเพื่อจะกระโดดลงมาฆ่าตัวตาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจึงได้ไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบชายคนดังกล่าวปีนขึ้น ไปอยู่หลังตึกอาคารสูงถึง 3 ชั้น จึงได้ทำการเกลี่ยกล่อมให้ชายคนดังกล่าวลงมา แต่ชายคนดังกล่าวบอกว่า ขอ โทรศัพท์คุยกับแฟนก่อน และก็บอกอีกว่าขอคุยกับน้าก่อน ลักษณะพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องวกวนไปมา เหมือนมีอาการหลอน หรือคุ้มคลั่ง จึงได้แจ้งไปยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี พร้อมกับนายวราวุฒิ แก้วเดช ปลัดป้องกันอำเภอเมืองสระบุรี และเจ้าหน้าที่ป้องกันของอำเภอเมือง มาทำการช่วยเกลี่ยกล่อมเพื่อให้ชายคนดังกล่าวลงมาจากตึก 3 ชั้น แต่ก็ไม่เป็นผล กลัวว่าจะพลาดท่าตกลงมา เพราะชายคนดังกล่าวมีอาการอ่อนเพลีย คุ้มคลั่งอย่างเห็นได้ชัด
จึงต้องขอรถกระเช้าจากเทศบาลเมืองสระบุรี เพื่อจะส่งนายวราวุฒิ ขึ้นรถกระเช้าไปเกลี่ยกล่อมเพื่อนำตัวชายคนดังกล่าวลงมา กว่าจะลงมาได้ ต้องมีการต่อลอง ขออย่าให้ตำรวจยัดยาบ้า และอย่าให้ใครทำร้าย และขอให้ไปส่งที่บ้าน ทางปลัดได้รับปากประกันว่า เรื่องที่ขอมาจะไม่เกิดขึ้น จะไม่มีคนทำร้าย แต่ชายคนดังกล่าวก็ยังโยกเยกขอโทรศัพท์คุยกับน้าสาว อายุประมาณ 40 ปี และต้องให้ปลัดคุยกับน้า ว่า ตนเองต้องปลอดภัย และชายคนดังกล่าวก็ยังพูดวกวนอีกว่า ตนเองขับรถมาจากอยุธยาจะไปหาแฟนเก่าที่ลพบุรี แต่มาอยู่สระบุรีตรงนี้ได้ยังไงตนเองยังงงอยู่ ปลัดด้วยความสามารถ ได้เกลี่ยกล่อม จนชายคนดังกล่าวใจอ่อนตามมาด้วยการประกันไม่ให้มีคนร้าย จึงขึ้นรถกระเช้ายอมลงมาแต่โดยดี พอถึงพื้นดินมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเข้าไปเพื่อจะนำตัวขึ้นรถ แต่ชายคนดังกล่าวได้ดิ้นไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่จับขึ้นรถ ได้ร้องขอความช่วยเหลือ แต่เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันหามขึ้นรถเข็น และส่งขึ้นรถตู้เพื่อนำไปส่งโรงพยาบาลสระบุรี ใช้เวลาในการเกลี่ยกล่อม ตั้งแต่เวลา 21.00 น. - 00.30 น. รวม 3 ชั่วโมงกว่า
สาเหตุที่ชายคนดังกล่าว ที่ปีนขึ้นไปอยู่ข้างบนตึก 3 ชั้น ทราบว่า เมื่อตอนเย็นได้ไปซุกซ่อนอยู่หลังเทศบาลเมืองสระบุรี แถวๆรถดับเพลิง ได้มีเจ้าหน้าที่เห็น ได้ถามว่า มาทำอะไร แต่ชายคนดังกล่าวไม่พูดจา และได้วิ่งตรงไปทางอำเภอเมืองสระบุรี จนทราบข่าวมาได้หลบขึ้นไปอยู่หลังสำนักงานสรรพากร ตึก 3 ชั้น อยู่หลังอำเภอเมือง ทราบชื่อชายคนดังกล่าว นายธนกฤต อายุ 31 ปี ภายในตัวมีเงินสดประมาณ 2840 บาท พร้อมบัตรเอทีเอ็ม และบัตรประชาชน อย่างละ 1 ใบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วน นาย ธนกฤต ต้องรอให้แพทย์ตรวจว่าเป็นโรควิกลจริตหรือคุ้มคลั่งกันแน่ แต่ถ้าตรวจในร่างกายแล้วเจอสารเสพติด ก็จะส่งไปบำบัดและรักษาตัวต่อไป