5  ก.ย. 64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า  น.ส.นิชาภา พร้อมสามี นายดิเรก เจ้าของสวน Sweety Cactus บ้านตาลอง ต.บ่อพลอย อ.บ่อไร่ จ.ตราด เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเพื่อแจ้งเตือนภัยชาวบ้าน และกลุ่มผู้รักการเพาะปลูกไม้สวยงาม ที่กำลังเป็นกระแสนิยมจนมีราคาแพงลิบลิ่วในขณะนี้ว่า ชาวบ้านในละแวกใกล้สวนตราด Sweety Cactus ของตนเองต่างหวาดระแวงกับเหตุการณ์หัวขโมยเที่ยวตระเวนขโมยต้นไม้ของชาวบ้านกันเป็นประจำ โดยเฉพาะที่สวนของตนเองในช่วงเวลา 8 วัน หัวขโมยเข้ามาขโมยต้นไม้ประเภท โคโรคาเซียถึง 2 ครั้ง เสียหายไปถึงกว่า 130,000 บาท  จึงต้องการให้สื่อมวลชนช่วยเป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านเฝ้าระวังคนร้ายจะฉวยโอกาสชาวบ้านเผลอตระเวนขโมยต้นไม้ของชาวบ้านไปขายกันมากขึ้น

นายดิเรก  เปิดเผยว่า ตนเองและภรรยาทำแปลงใหม่ปลูกต้นไม้ประเภทโคโรคาเซียในสวน Sweety Cactus ได้เพียง 4 วัน ยังไม่ทันทำรั้วรอบขอบชิด หัวขโมยก็ขี่รถจักรยานยนต์มากัน 2 คน ใช้ไฟจากโทรศัพท์มือถืออส่องตามแปลงปลูก และขโมยต้นไม้ราคาแพงไปถึง 6 ต้น ประกอบด้วยมิกกี้เวย์ 1 ต้น ฟาโรห์ 1 ต้น บอนนาญี่ปุ่น 2 ต้น  โมจิโต้ 1 ต้น และออดิบไจแอนท์ 1 ต้น ในคืนวันที่ 23 สิงหาคม 64 โดยคนร้ายมกัน 2 คน หลังจากนั้นห่างกันแค่ 8 วัน หัวขโมยรายเดิมก็ขับขี่รถจักรยานยนต์คันเดิมมาอีก แต่คราวนี้มาเพียงคนเดียว โดยเดินเข้ามาในแปลงปลูกแปลงเดิม หวังมาขโมยต้นไม้ที่เหลือไปอีก แต่ช่วงเวลาที่คนร้ายเข้ามาในแปลงรอบนี้ มารดาของตนเข้ามาเดินตรวจสอบภายในแปลงปลูกที่อยู่ติดกัน จึงใช้ไฟฉายส่องดู และส่งเสียงถามหลายครั้ง ทำให้คนร้ายรีบถอนต้นไม้ได้เพียง 1 ต้น คือต้นบอนนาญี่ปุ่น และรีบวิ่งหลบหนีไปขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป และเดินทางไปแจ้งความกับ ร.ต.อ.ธนพนธ์ แต้มสาระ ร้อยเวร สภ.บ่อไร่ โดยนำคลิปจากกล้องวงจรปิดไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลักฐานในการติดตามคนร้ายรายนี้ด้วย

 

น.ส.นิชาภา  และสามีเล่าให้ฟังว่า จากรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย กล้องวงจรปิดจับภาพค่อนข้างชัดเจน เป็นวัยรุ่นสูงประมาณ 160 ซม. เศษ น่าจะเป็นคนในละแวกใกล้เคียง เพราะตนเองเพิ่งปลูกพันธุ์ไม้ดังกล่าวได้แค่ 4 วัน ก็สามารถรู้แล้ว และขี่รถจักรยานยนต์มาขโมยในช่วงเวลาหลัง 04.00 น. โดยคาดว่าเป็นช่วงที่เจ้าของนอนหลับสบายอยู่

น.ส.นิชาภา บอกว่า นอกจากต้นไม้สายพันธุ์โคโรคาเซียแล้ว ยังมีไม้ราคาแพงอีกมาก ทั้งแคคตัส กระบองเพชรจิ๋วชนิดต่างๆ และไม้ด่าง บอนสีที่กำลังเป็นที่นิยมจำนวนมาก จึงเกรงว่า คนร้ายจะฉวยโอกาสมาก่อเหตุซ้ำดังกล่าว นอกจากนี้สองสามีภรรยายังบอกอีกว่าหากใครพบเบาะแสคนร้ายรายนี้ และสามารถชี้เบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้จะให้รางวัลนำจับ 1 หมื่นบาทอีกด้วย