จนท. เข้าตรวจสอบพื้นที่บุกรุกแก้มลิงหนองใหญ่ โครงการพระราชดำริ ในหลวง ร.9
6 ก.ย. 2564, 16:25
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายสุทธิพงศ์ โค้วสุวรรณวัฒนา ปลัดอำเภอเมืองชุมพร ร.ต.ต.ภิญโญ พรหมเรือง หัวหน้าสายตำบลบางลึก นายอนุพงษ์ เย็นท่าเรือ นายช่างรังวัดชำนาญงาน สำนักงานที่ดินจังหวัดชุมพร นายปรีชา สมบัตินา นายกเทศมนตรีตำบลบางลึก นายชุมพล องอาจ รองนายกเทศมนตรีตำบลบางลึก นางดารินทร์ ริยาพันธุ์ ปลัดเทศบาลตำบลบางลึก นายธวัชชัย หอมลออ ผอ.กองช่างเทศบาลตำบลบางลึก นายกฤชกร ธนอภิรัตน์ นิติกร เทศบาลตำบลบางลึก นายสันติ หอมลออ กำนันตำบลบางลึก นายประโยชน์ ทิพย์พิมล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ตำบลบางลึก และนายสุพร โทธานี ราษฎรอาวุโส ตัวแทนกลุ่มปกป้องบ้านพ่อ
โดยคณะเจ้าหน้าที่ทั้งหมดลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่บุกรุกแก้มลิงหนองใหญ่ โครงการพระราชดำริ ในหลวง ร.9 หมู่ที่ 8 ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร หลังมีกลุ่มบุคคลต่างถิ่นเข้ามาบุกรุกยึดครอง โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ด้านทิศตะวันตกอยู่ติดกับถนนและคลองกรมชลประทาน ใกล้กับประตูระบายน้ำโครงการพระราชดำริ แก้มลิงหนองใหญ่ มีการบุกรุกแผ้วถาง วางแนวรั้วเสาปูนกั้นด้วยลวดหนามรวมพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ บริเวณปากทางเข้าห่างจากถนนกรมชลประทานประมาณ 5 เมตร มีการสร้างเป็นที่พักชั่วคราว พร้อมถังน้ำพลาสติกขนาด 1,000 สิตร และมีรถเก๋งฮอนด้า สีบรอนซ์ จอดอยู่ด้านหน้า 1 คัน ด้านในรั้วมีรถกระบะโตโยต้า ตอนครึ่งสีบรอนซ์ โดยที่กระชังหน้ารถติดเครื่องหมายโลหะเป็นตราสัญลักษณ์ของสำนักงานศาลยุติธรรม จอดอยู่ 1 คัน
ขณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบมีชายฉกรรจ์อายุประมาณ 35-40 จำนวน 2 คน ตัดผมสั้นเกรียนบุคลิกการแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่รัฐ 1 คน และไว้ผมยาว 1 คน เดินออกมาพบเจ้าหน้าที่ โดยชายฉกรรจ์ผมเกรียนอ้างตนเป็นเจ้าของที่ดิน และยืนยันว่ามีเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. ได้เข้ามาครอบครองทำกินนานหลายปีแล้ว แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องขอดูเอกสารสิทธิการครอบครองที่ดิน ชายฉกรรจ์คนดังกล่าวบ่ายเบี่ยงอ้างว่ามีแน่นอนและให้ไว้คุยกับทนายความเอาเอง และพูดจาโยกโย้ไปต่างๆ นานา แต่ก็ไม่ยอมเอาออกมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
จากนั้น สุทธิพงศ์ โค้วสุวรรณวัฒนา ปลัดอำเภอเมืองชุมพร นายอนุพงษ์ เย็นท่าเรือ นายช่างรังวัดชำนาญงาน สำนักงานที่ดินจังหวัดชุมพร นายปรีชา สมบัตินา นายกเทศมนตรีตำบลบางลึก นายชุมพล องอาจ รองนายกเทศมนตรีตำบลบางลึก และผู้เกี่ยวข้องช่วยกันอธิบายกับชายฉกรรจ์ที่ไม่ยอมแสดงตัวตนชื่ออะไรเป็นใครมาจากไหน แต่อ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินแปลงดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ทั้งหมดช่วยกันอธิบายว่าได้เข้ามาตรวจสอบตามหน้าที่ตามที่ได้รับการร้องเรียนว่ามีการบุกรุกที่สาธารณะแก้มลิงหนองใหญ่ ในโครงการพระราชดำริ ร.9 หรือที่ชาวชุมพรเรียกว่า “บ้านพ่อ” หากไม่มีเอกสารมายืนยันการเป็นผู้ครอบครองที่ดินดังกล่าวก็ต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในฐานะเจ้าพนักงานในการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่บุกรุกดังกล่าวอยู่ในพื้นที่หนองน้ำสาธารณะหนองใหญ่ โครงการพัฒนาแก้มลิงหนองใหญ่ โครงการพระราชดำริ ในหลวง ร.9 ใช้เป็นแก้มลิงป้องกันและแก้ปัญหาน้ำท่วมในตัวเมืองชุมพรและพื้นที่ใกล้เคียง และยังใช้เป็นแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรแก่ราษฎร โดยเมื่อปี 2560 เคยมีนายทุนใหญ่เข้ามาบุกรุกยึดครองออกโฉนดโดยมิชอบจำนวน 27 แปลง รวมพื้นที่ 720 ไร่ หลังจากมีการตรวจสอบต่อมาอธิบดีกรมที่ดินในขณะนั้นได้มีคำสั่งให้เพิกถอนการออกเอกสาร นส.3 ก จำนวน 27 แปลง ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ในพื้นที่โดยการเดินสำรวจโดยไม่มีหลักฐาน จำนวน 25 แปลง และออกเฉพาะรายจาก ส.ค. 1 จำนวน 2 แปลง ระหว่างพ.ศ. 2520 – 2522 เนื้อที่รวม 720 ไร่เศษ ตามคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ที่ 3402/2560 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2564 ดังนั้นที่ดินดังกล่าวนั้นถือเป็นที่ดินสาธารณะ และนายทุนใหญ่รายดังกล่าวได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองและศาลปกครองไม่รับฟ้องเพราะเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ขณะที่ชายฉกรรจ์คนดังกล่าวยังกล่าวยืนยันว่าตนเองเข้ามาครอบครองทำประโยชน์โดยสุจริตนานแล้วและอ้างมีเอกสาร น.ส.3 ก. แต่ก็ไม่นำออกมาแสดงยืนยันกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด พร้อมกับบอกว่าหากมีการจับกุมก็จะขอสู้ในชั้นศาลและให้ศาลเป็นผู้พิพากษา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพต่างๆที่มีการบุกรุกแผ้วถาง พร้อมสิ่งก่อสร้าง และคำยืนยันแสดงตนเป็นเจ้าของผู้ครอบครองที่ดินดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเดินทางกลับไปรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับที่ดินสาธารณะบริเวณดังกล่าวเพื่อเข้าแจ้งความดำเนินดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป