ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า โรงเรียนสภาราชินี โรงเรียนประจำจังหวัดตรัง ผุดไอเดียทำตลาดสร้างฝันให้แก่นักเรียนเพื่อสร้างรายได้ช่วยเหลือผู้ปกครอง อันเนื่องมาจากปัญหาราคายางพาราและปาล์มน้ำมันตกต่ำ จนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจย่ำแย่ทั้งระบบ โดยที่ตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณทางเดินเข้าโรงเรียน ด้วยการจัดสร้างเป็นซุ้มไม้ไผ่ พร้อมประดับตกแต่งไว้อย่างสวยงาม เพื่อให้เด็กนำของกินต่างๆ มาวางขาย อาทิ ข้าวเหนียวไก่ทอด-หมูทอด 10 บาท ข้าวต้มยกซด 10 บาท กับข้าว 10 บาท ซาลาเปาติ่มซำ-ขนมปังปิ้ง 10-20 บาท แซนด์วิซ 15 บาท ข้าวกระเพรา 20 บาท ข้าวหมกไก่ 20 บาท เครปเย็นราคา 20 บาท และเครื่องดื่ม 10 บาท  ซึ่งล้วนเป็นฝีมือจากนักเรียนที่ตั้งใจทำขึ้นเพื่อนำมาขายให้แก่เพื่อนๆ ในโรงเรียน ช่วงเช้าก่อนเข้าแถวเคารพธงชาติ โดยบรรดาครูและนักเรียนต่างมาเข้าแถวยืนซื้อกันเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นไปอย่างคึกคัก

นายวัชรินทร์ โตขาว อาจารย์ที่ปรึกษาตลาดสร้างฝัน โรงเรียนสภาราชินี กล่าวว่า ตลาดแห่งนี้เกิดขึ้นมาจากแนวคิดง่ายๆ ที่ไม่สลับซับซ้อนอะไร และมาจากข้อมูลของฝ่ายปกครองที่พบว่า ขณะนี้มีนักเรียนหลายคนที่ฐานะทางบ้านยากจน และมีความยากลำบาก อันเนื่องมาจากสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน เนื่องจากยางพารา และปาล์มน้ำมัน มีราคาตกต่ำ จนส่งผลให้ผู้ปกครองมีรายได้ลดลง จึงน่าจะมีวิธีการที่ทำให้นักเรียนมีรายได้เพื่อลดภาระผู้ปกครอง  รวมทั้งยังสังเกตเห็นนักเรียนหลายคนที่ไม่ได้ทานอาหารมาจากบ้าน ต้องมาซื้อกินในตลาดบ้าง ที่หน้าโรงเรียนบ้าง หรือร้านสะดวกซื้อบ้าง ตนเองจึงมีความคิดว่าน่าจะแบ่งเงินส่วนนี้กลับเข้ามาในโรงเรียนบ้าง โดยที่อนุญาตให้นักเรียนนำของมาขายได้ในตอนเช้า ขณะที่เพื่อนๆ ก็ได้มีส่วนเข้ามาอุดหนุน ซึ่งส่วนใหญ่เด็กๆ จะทำกันเองกับผู้ปกครอง แต่บางคนก็อาจซื้อมาบ้าง แล้วนำมาขายเอาส่วนต่าง

ตลาดสร้างฝัน โรงเรียนสภาราชินี เริ่มขายตั้งแต่เวลา 06.45-07.45 น. ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ถือเป็นการฝึกให้เด็กรู้จักคิดว่าควรนำสินค้าอะไรมาวางขาย เพราะการเป็นพ่อค้าแม่ค้า ไม่ใช่จะขายอะไรก็ได้ แต่เด็กต้องคิดด้วย เมื่อคิดแล้วก็ทำ โดยร่วมมือกับผู้ปกครอง ซึ่งจากวันแรกที่เปิดตลาดมีเด็กมาขายของกินแค่ 8 ร้าน เพราะส่วนใหญ่อาจจะยังไม่กล้า แต่หลังจากเปิดตลาดมาได้ราว 1 สัปดาห์ ปรากฏว่า มีเด็กแจ้งความประสงค์ที่จะนำสินค้ามาวางขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แถมยังมีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งเป็นการสอนนักเรียนว่านอกจากจะรู้จักการบริหารร้านของตัวเองแล้ว ยังต้องบริหารตลาดด้วย ดังนั้น ถ้าเมื่อไหร่ที่มีเด็กแจ้งความประสงค์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปก็จะให้สลับวันกันขาย เพื่อให้สินค้าในแต่ละวันมีความแตกต่าง และในภาคเรียนหน้าก็จะมีการเชิญวิทยากรภายนอกมาอบรมเด็กเพื่อจะได้รู้ว่า พวกเขาอยากทำอะไร หรือเอาสินค้าตัวไหนมาขาย

 

ทั้งนี้ โรงเรียนสภาราชินี คาดหวังว่า สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากตลาดสร้างฝัน จะติดตัวนักเรียนไป และต่อไปเด็กก็จะสามารถหารายได้ได้ ตอนที่ไปเรียนในระดับที่สูงขึ้น ส่วนสินค้าที่นำมาจำหน่ายนั้นจะมีราคาตั้งแต่ 5-25 บาท พร้อมคุมปริมาณแต่ละร้านไม่ให้มีมากเกินไป เพราะนักเรียนจะต้องขายแข่งกับเวลา หรือในเวลาที่จำกัดคือ ประมาณ 1 ชั่วโมง ช่วงก่อนนักเรียนเข้าแถว  ปรากฏว่า ล่าสุดบางร้านสามารถขายได้ดีถึงวันละ 700-800 บาท ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี และต่อไปถ้าร้านไหนมีกำไรเยอะๆ ก็จะให้สลับวันเพื่อให้เด็กคนอื่นได้มาขายบ้าง เพราะหากสินค้าเหมือนเดิมทุกวัน เดี๋ยวลูกค้าจะรู้สึกเบื่อ โดยจากการเปิดตลาดมาพบว่ามีผลตอบรับที่ดี และนักเรียนมีความสุข เนื่องจากแทนที่เด็กจะมัวไปซื้ออาหารอยู่ด้านนอก แล้วเข้าเรียนสาย แต่ขณะนี้พวกเขาจะรีบเข้ามาอยู่ในโรงเรียนตั้งแต่เช้า และช่วยลดปัญหาการมาสายไปในตัว