วันนี้ (26 ส.ค.62) ผู้สื่อข่าว ONB news ได้รับแจ้งจาก นายสุรพงษ์ รัตนโคตร ผอ.โรงเรียนตาคงวิทยา รัชมังคลาภิเษก ต.ตาคง อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ว่า มีเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.1 ทราบชื่อคือ ด.ญ.สุภาวดี ขุมทอง หรือ น้องแพร อายุ 13 ปี อาศัยอยู่กับตายาย คือ นางบุญมา ขุมทอง อายุ 72 ปี ผู้เป็นยาย และนายเดือน ขุมทอง อายุ 72 ปี ผู้เป็นตา และลุงอีก 2 คน คือ นายสวรรค์ ขุมทอง อายุ 49 ปี สติไม่ค่อยดีแต่กำเนิด และลุงอีกคน คือ นายขัน ขุมทอง อายุ 47 ปี สติไม่ดีเช่นกัน เนื่องจากอุบัติเหตุสมัยวัยรุ่น อาศัยอยู่รวมกันทั้งหมด 5 ชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 124 ม.8 บ.โคกสำโรง ต.ตาวัง อ.บัวเชด จ.สุรินทร์

ซึ่งเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูงหลังเก่าๆ ในสภาพผุพัง ไม่มีห้องกั้นเป็นสัดส่วน มีเพียงฝาบ้านที่เป็นสังกะสีและเศษไม้เก่าๆ ที่ไม่มิดชิด บังแดดบังฝนได้ไม่มากนัก ขณะที่หลังคาสังกะสีอยู่ในสภาพเก่ามีรอยรั่วหลายแห่ง ส่วนพื้นบ้านที่เป็นไม้กระดานแผ่น ก็มีช่องโหว่ไม่มิดชิด ข้าวของเครื่องใช้ที่นอนเสื้อผ้าวางไม่เป็นระเบียบ เนื่องจากไม่มีตู้เสื้อผ้าอย่างเป็นสัดส่วน ส่วนห้องน้ำอยู่ในสภาพเก่าทรุดโทรม เริ่มเอียงใกล้พัง และไม่มิดชิด แถมอยู่ไกลจากตัวบ้านอีกด้วย

นอกจากนี้ ครอบครัวนี้ ยังคงใช้เตาฟืนหุงข้าว ทำอาหารอยู่ ไม่มีรายได้อื่นใด นอกจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ของตายาย คนละ 700 บาท และเบี้ยยังชีพคนพิการของลูกชายอีก 2 คน คนละ 800 บาทต่อเดือน แต่ยังคงไม่เพียงพอ ต้องอดมื้อกินมื้อมาโดยตลอด ลูกชายของสองตายายที่สติไม่ดีทั้ง 2 คน ก็ไม่สามารถประกอบอาชีพหรือออกไปรับจ้างนำเงินมาช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวได้ ต้องอดมื้อกินมื้อ มีชาวบ้านข้างเคียงและผู้นำชุมชนคอยเอากับข้าวกับปลามาให้บ้าง นานๆ ครั้ง ส่วน ด.ญ.สุภาวดี ขุมทอง หรือ น้องแพร อายุ 13 ปี เพิ่งจะเข้าเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนตาคงวิทยารัชมังคลาภิเษก ก็ไม่มีทุนการศึกษา สองตายายต้องคอยเจียดเงินจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่เก็บไว้ซื้อกับข้าวให้หลานสาวไปโรงเรียนวันละ 20 บาท บางวันก็ไม่มีให้

 

นางบุญมา ขุมทอง อายุ 72 ปี ผู้เป็นยาย กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่กัน 5 คน ส่วนแม่ของน้องแพร สติไม่ค่อยดีเช่นกัน ไปอยู่กับสามีที่ ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ไม่เคยมาดูแลลูก ทิ้งไว้ให้ตนเองดูแลตั้งแต่เด็ก นานๆ ครั้งจะกลับมาหาที และครอบครัวก็ลำบากเช่นกัน ตนเป็นห่วงแต่อนาคตหลานสาวอย่างเดียว อยากให้เขาได้เรียนสูงๆ มีอนาคตที่ดี ลำพังตนเองแก่แล้วไม่เป็นไร ไม่ห่วง และยังลำบากเรื่องอาหารการกิน เงินจะซื้อข้าวก็แทบไม่มี มีแต่เบี้ยยังชีพที่พอได้ไว้ซื้อกับข้าว ไว้ให้หลานไปโรงเรียน บางวันก็ไม่มีให้ อดบ้างอิ่มบ้าง ส่วนบ้านก็ไม่มิดชิด ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากได้บ้านที่มิดชิดและบังแดดบังฝนได้มากกว่านี้ หลานสาวก็เริ่มโตเป็นสาวแล้วด้วย กลัวจะไม่ปลอดภัย ตนมีลูกทั้งหมด 5 คน สติไม่ค่อยดี 3 คน อีก 2 คน แยกย้ายไปมีครอบครัวที่ต่างจังหวัด หลายปีถึงได้กลับมาเยี่ยมบ้าง ครอบครัวเขาก็ลำบากเหมือนกัน

นายพล แสงเพ็ญ ผู้ใหญ่บ้านโคกสำโรง กล่าวว่า ครอบครัวนี้ลำบาก ขัดสนมาตลอด เมื่อก่อนครอบครัวนี้เป็นชาว จ.ชัยภูมิ ย้ายมาปักหลักทำมาหากินที่นี่ได้ประมาณ 20 กว่าปีแล้ว ลูกๆ ที่อยู่ด้วย 2 คน ก็สติไม่ค่อยดี ส่วนคนที่แข็งแรงอีก 2 คน ก็ย้ายไปมีครอบครัวที่ต่างจังหวัดกันหมด ไม่เคยมาดูแล นานหลายปีถึงจะกลับมาเยี่ยมบ้าง ตายายได้เบี้ยผู้สูงอายุคนละ 700 บาทต่อเดือน ส่วนลูกชาย 2 คน ที่ร่างกายพิการ ไม่แข็งแรงและสติไม่ค่อยดี ก็ได้เบี้ยยังชีพคนพิการ 800 บาทหนึ่งคนอีกคนยังไม่ได้ ก็พอได้ใช้ซื้อข้าวซื้ออาหาร แต่ก็คงไม่พอ ส่วนสภาพบ้านก็พุผังไม่มิดชิด หลานสาวก็เรียนหนังสือแล้ว ยังขาดทุนการศึกษา และที่สำคัญเรื่องที่อยู่อาศัย ที่ไม่มิดชิด อีกทั้งหลานสาวกำลังโตเป็นสาวก็เกรงจะเกิดอันตรายหากอยู่คนเดียว ส่วนรายได้อื่นใดก็ไม่มี เมื่อก่อนแกเคยมีควายเลี้ยงไว้ 2-3 ตัว ก็พอได้ขายบ้าง นานๆ ครั้งหากมีความจำเป็นตอนนี้เหลืออยู่แค่ตัวเดียว ส่วนชาวบ้านก็มาหยิบยื่นกับข้าวกับปลาให้บ้าง ไปเอาที่วัดบ้าง อยากให้ผู้ใจบุญบริจาคช่วยเหลือร่วมกัน จะได้ช่วยสร้างบ้านให้ครอบครัวนี้ใหม่ และจะใช้จิตอาสามาช่วยกันสร้าง ส่วนบัญชีผู้นำชุมชน ครู และยายของเด็ก จะเปิดบัญชีร่วมเพื่อร่วมกัน และช่วยกันดูแลในเรื่องเบิกจ่ายเงิน เพื่อความโปร่งใสต่อไป

ด้านนายสุรพงษ์ รัตนโคตร ผอ.โรงเรียนตาคงวิทยา รัชมังคลาภิเษก กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจากคุณครูรัตนากร บัวผาย ซึ่งเป็นครูที่ปรึกษาของน้องแพร ที่เรียนชั้น ม.1/ 2 หลังจากลงพื้นที่เยี่ยมนักเรียน ก็ได้เห็นถึงความยากลำบาก ของครอบครัวนี้ ตนจึงร่วมกันลงพื้นที่ดูสภาพจริงและเห็นถึงความยากลำบากทั้งที่อยู่อาศัย และพักกับคุณตาคุณยายและลุงๆ ที่สติไม่ค่อยดี ก็อยากขอความอนุเคราะห์จากผู้ใจบุญช่วยเหลือครอบครัวนี้ร่วมกันด้วย โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยที่ไม่มิดชิด ห้องน้ำที่เก่าและอยู่ไกลจากตัวบ้าน น้องแพรก็เริ่มโตเป็นสาวแล้ว เกรงจะเกิดอันตรายต่างๆ นานา ก็อยากได้งบประมาณมาช่วยสร้างบ้านให้ครอบครัวนี้ รวมทั้งทุนการศึกษาก้อนหนึ่งไว้ให้น้องแพรไว้เป็นทุนการศึกษาต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้หากผู้ใจบุญต้องการช่วยเหลือครอบครัวนี้ สามารถโอนเงินบริจาคได้ที่บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาสังขะ ชื่อบัญชี กองทุนเพื่อการศึกษา ด.ญ.สุภาวดี ขุมทอง โดยนางบุญมา ขุมทอง และนายพล แสนเพ็ญ และ น.ส.รัตนากร บัวผาย เลขที่บัญชี 678-5-11664-3 หรือสามารถโทรศัพท์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 086-0254688 นายพล แสงเพ็ญ ผญบ.โคกสำโรง และที่หมายเลขโทรศัพท์ 083-3846776 นายสุรพงษ์ รัตนโคตร ผอ.โรงเรียนตาคงวิทยา รัชมังคลาภิเษก