วันนี้ ( 9 ก.ย.64 ) ​นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงได้มอบหมายให้กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชานที่ได้รับผลกระทบ เพื่อเข้าไปให้การช่วยเหลือโดยเร็ว ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด

สำหรับสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำปราจีนบุรี เกิดฝนตกหนักบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน ส่งผลให้มีน้ำหลากจากลำน้ำธรรมชาติเอ่อล้นตลิ่งท่วมในพื้นที่ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี และไหลลงสู่แม่น้ำปราจีนบุรีเป็นจำนวนมาก ล่าสุดที่สถานีวัดน้ำท่า Kgt.3 อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 549 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.05 เมตร มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โครงการชลประทานปราจีนบุรี ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง ที่ตำบลโคกไม้ลาย สูบระบายน้ำออกจากพื้นที่หากเกิดน้ำท่วมขัง และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 8 เครื่อง บริเวณสะพานต้นน้ำบางปะกง เพื่อเร่งระบายน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี ลดความเสียหายที่ชุมชนตลาดเก่า อำเภอกบินทร์บุรี
ด้านจังหวัดเพชรบูรณ์ เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ วัดปริมาณฝนสะสมย้อนหลัง 24 ชั่วโมง ที่สถานีหน่วยจัดการต้นน้ำน้ำพาง ตำบลวังกวาง อำเภอน้ำหนาว ได้ 63.60 มิลลิเมตร ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำป่าสักที่สถานี S.33 อำเภอหล่มเก่า สูงกว่าตลิ่ง 1.31 เมตร เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้( 9 ก.ย. 64) ขณะนี้ระดับน้ำกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมประสานไปยังโครงการชลประทานเพชรบูรณ์ และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เข้าให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นการด่วนแล้ว คาดการณ์ว่าระดับน้ำแม่น้ำป่าสักที่สถานี S.3 อ.หล่มสัก จะสูงสุดที่ระดับ 8.90 - 9.00 เมตร(รทก.) ปริมาณน้ำไหลผ่าน 113 - 119 ลบ.ม./วินาที ในช่วงเวลาประมาณ 07.00 - 09.00 น. ของวันพรุ่งนี้(10 ก.ย. 64) 

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งของแม่น้ำปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี และแม่น้ำป่าสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ จึงได้สั่งการให้โครงการชลประทานในพื้นที่ ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมกับบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ เพื่อลดเเละบรรเทาผลกระทบในเเต่ละพื้นที่  ซึ่งได้ประสานแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนเพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำแล้ว  นอกจากนี้ ยังได้ติดตั้งเครื่องจักร เครื่องมือ รถแบคโฮ รถขุด รถเทรลเลอร์ เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ และเครื่องผลักดันน้ำ ประจำไว้ในพื้นที่เสี่ยง ให้สามารถนำไปช่วยเหลือได้ทันที หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อโครงการชลประทานใกล้บ้านทุกแห่ง หรือโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา