"ผอ.ชลประทานอุทัยธานี" เผย ! ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง เตือน! ปชช.เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
14 ก.ย. 2564, 10:17
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายฐกร กาญจิรเดช ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอุทัยธานี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือตอนบน และภาคกลาง การคาดหมายของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 10 – 13 กันยายน 2564 ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียวใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่งผลให้มีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำสะแกกรังไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวันนี้ ( 14 ก.ย. )ตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 จังหวัดนครสวรรค์วัดได้ 1,909 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำสู่ท้ายเขื่อนด้วยอัตรา 1,321 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งยังไม่ส่งผลกระทบใดๆต่อพื้นที่ของจังหวัดอุทัยธานี และหากข้างหน้าถ้ามีอัตราปริมาณไหลผ่านสถานี c.2 จังหวัดนครสวรรค์ เกิน 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เมื่อไรจะส่งผลทำให้เกิดอุทกภัยอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ได้จัดเจ้าหน้าเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ 24 ชม. หากถึงเกณฑ์ใกล้วิกฤตทางเจ้าหน้าที่จะลดประตูระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าสู่แม่น้ำสะแกกรังทัน ทั้ง 2 แห่ง ประกอบด้วยประตูระบายน้ำปากคลองขุมทรัพย์ และประตูระบายน้ำตามรอยเสด็จประภาสต้นรัชกาลที่ 5 ในตำบลเกาะเทโพ อำเภอเมืองทันทีโดยจะระบายน้ำด้วยความเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดอุทกภัย โดยเฉพาะแม่น้ำสะแกกรังที่จะเอ่อล้นทะลักเข้าตัวเมืองอุทัยธานี
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ โครงการชลประทานอุทัยธานี จึงได้ประกาศประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยาและในแม่น้ำสะแกกรัง อาทิ งานก่อสร้าง เขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร เป็นต้น และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำสะแกกรัง ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเรือนแม่น้ำสะแกรัง ขอให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด ต่อไป