"นครปฐม" พบผู้ติดเชื้อโควิด เพิ่มอีก 148 ราย เสียชีวิต 6 ราย
15 ก.ย. 2564, 11:23
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2564 ที่จังหวัดนครปฐม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าของสถานการณ์โรคโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดนครปฐมพบผู้ป่วยโควิดลดลงอย่างต่อเนื่องตรวจพบวันนี้ 148 รายเสียชีวิต 6 รายผู้ป่วยสะสม30,948 รายสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐมกลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ และทีม SAT & SRRT พบผู้ป่วยระลอกใหม่ รวมจำนวน 30,948 ราย ข้อมูลผู้ป่วยในจังหวัดในการเฝ้าระวังเชิงรุก 106 ราย การเฝ้าระวังเชิงรับ 42 ราย เป็นสัญชาติ ไทย 140 ราย อื่นๆ 8 ราย ในจังหวัด นฐ 147 รายนอกจังหวัด 1 ราย ค่าเฉลี่ยการพบผู้ป่วยในช่วง 7 วันที่ผ่านมา= 172 รายซึ่งมีแนวโน้มการระบาดคงตัว ในสัดส่วนเพศชาย หญิง เท่ากับ 1:1.09 ผู้เสียชีวิต วันนี้ + 6 ราย รวมสะสมผู้เสียชีวิต 488 รายอัตราป่วยตาย = ร้อยละ 1.57 อ.เมือง65รายอ.นครชัยศรี 35 รายดอนตูม 24 รายอ.สามพราน 10 รายอ.พุทธมณฑล6 ราย อ.กำแพงแสน5รายบางเลน 2รายนอกจังหวัด 1 ราย ในเรือนจำ 0 ราย กลุ่มอายุที่พบมากได้แก่ ช่วงอายุ 21-30 ปี รองลงมาคือ 31-40 และ 41-50 ปี ตามลำดับ
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ คือ การดำเนินกิจกรรมรวมกลุ่ม กลุ่ม การติดต่อกันภายในครอบครัวในเพื่อนร่วมงาน สถานประกอบการต่างๆ การติดตามมาตรการ วิเคราะห์แนวโน้มในทุกอำเภอและแนะนำประชาชนปฏิบัติตนตามแนวคิด Universal Prevention ได้แก่ออกจากบ้านเมื่อจําเป็นเท่านั้นเว้นระยะห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร ในทุกสถานที่สวมหน้ากากอนามัยและทับด้วยหน้ากากผ้าตลอดเวลา ทั้งที่อยู่ในและนอกบ้านที่มีคนมากกว่า 2 คนล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือแจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง ก่อนรับประทานอาหาร หลังใช้ส้วม ไอจาม หรือสัมผัสวัตถุ/สิ่งของ ที่ใช้ร่วมกันหลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าที่สวมใส่อยู่ รวมทั้งใบหน้า ตา จมูก ปาก โดยไม่จําเป็นผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี และผู้มีโรคเรื้อรัง หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน เว้นแต่จําเป็น(น้อยครั้งและใช้เวลาสั้นที่สุด)ทําความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นผิวที่ถูกสัมผัสบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้หรือสิ่งแวดล้อมด้านกายภาพแยกของใช้ส่วนตัวทุกชนิด ไม่ควรใช้ของร่วมกับผู้อื่นเลือกทานอาหารที่ร้อนหรือปรุงสุกใหม่ ควรทานอาหารแยกสําหรับ หากทานร่วมกันให้ใช้ช้อนกลางส่วนตัวและหากสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยง เช่น สัมผัสผู้ที่อาจติดเชื้อ หรือมีอาการ ควรได้รับการตรวจด้วย ATK บ่อย ๆ เพื่อยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ หรือไปรับการตรวจรักษาที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน
กรมควบคุมโรค ขณะนี้พบการติดเชื้อคนในครอบครัว เพื่อนร่วมงานสูงถึงร้อยละ 54 ดังนั้น ทุกองค์กร หรือครอบครัวขอให้ใส่หน้ากากอนามัยให้บ่อยที่สุดเท่าที่ทำได้ โดยเฉพาะในที่ทำงานขอให้ใส่หน้ากากอนามัยตลอด และอย่ากินข้าวร่วมกัน และอยู่ในบ้านที่มีผู้สูงอายุขอให้ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งอีกด้วย