โฆษกรบ. แจง ศก.ไทยเดินหน้า ไตรมาสแรก ปี 64 ลงทุนขยายตัวสูง 43.8 %
18 ก.ย. 2564, 10:44
วันนี้(18 ก.ย. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจมาถูกทางแล้ว โดยเศรษฐกิจในครึ่งปีแรกขยายตัวที่ร้อยละ 2.0 และในไตรมาสที่ 2 มีการขยายตัวถึงร้อยละ 7.5 ซึ่งสูงกว่าประเทศอื่นในเอเชีย เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ ทั้งนี้มูลค่าการลงทุนโดยตรงของไทยยังขยายตัวสูงขึ้น ช่วงไตรมาสแรก ปี 2564 มีมูลค่าทั้งสิ้น 4,012.23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 43.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนให้เห็นถึงเม็ดเงินลงทุนที่ไหลกลับเข้ามาลงทุนในประเทศไทย สัญญาณการจ้างงานเริ่มมีปรับดีขึ้น อัตราการว่างงานล่าสุดปรับตัวลดลงเหลือร้อยละ 1.9 ของกำลังแรงงาน เทียบกับอัตราการว่างงานที่เคยสูงสุดที่ร้อยละ 2.1 เมื่อปีก่อน คาดว่ารายได้ต่อหัวของประชาชนจะอยู่ที่ 232,024.0 บาทต่อคนต่อปีซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ อยู่ที่ 225,845.7 บาทต่อคนต่อปี จะเห็นว่ารายได้ของประชาชนมีแนวโน้มจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
นายธนกร กล่าวอีกว่า ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว ส่วนหนึ่งมาจากบทบาทของภาครัฐที่เดินมาถูกทางแล้ว รวมทั้งมาตรการเยียวยา มาตรการฟื้นฟูและกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ จากข้อริเริ่มวิสัยทัศน์ของท่านนายกฯ อาทิ เช่น โครงการเยียวยาผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่ง โครงการเราชนะ โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มาตรการบรรเทาภาระค่าสาธารณูปโภค มาตรการบรรเทาค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา มาตรการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตน ม.33 ม.39 และ ม.40 รวมถึงมาตรการด้านการเงินผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs และประชาชน อาทิ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) จาก ธ.ออมสิน และ ธปท. ที่ส่งต่อไปยังสถาบันการเงินต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ บรรเทาความเดือดร้อนในเรื่องสภาพคล่อง มาตรการพักชำระหนี้ ทั้งในส่วนของธนาคารของรัฐ และธนาคารพาณิชย์เอกชน
ตลอดจน ภาครัฐได้มีการเร่งควบคุมการแพร่ระบาดและมีการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 เพิ่มขึ้นตามลำดับ รวมถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติบางส่วน เช่น ในพื้นที่ภูเก็ตแซนด์บอกซ์ สมุยพลัสโมเดล และพื้นที่นำร่องอื่น ๆ จากปัจจัยต่าง ๆ คาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในปี 2564 สามารถขยายตัวเป็นบวกได้ และคาดว่าจะขยายตัวได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในปี 2565 จึงอยากวิงวอนนักการเมืองพรรคฝ่ายค้านที่พยายามวิเคราะห์เศรษฐกิจ อย่าหลงประเด็น สร้างความสับสนว่าเศรษฐกิจไทยในขณะนี้มีความย่ำแย่ จนทำให้บรรยากาศเศรษฐกิจประเทศเสียหาย ในขณะที่นายกรัฐมนตรีกำลังเดินหน้าพลิกโฉมประเทศ ให้ประเทศและประชาชนมีความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน