หนุ่มวัย 24 ซิ่งจยย. กลับบ้านชนรถบรรทุกพ่วงสิ้นใจสลด
19 ก.ย. 2564, 08:56
เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่า พบเห็นอุบัติเหตุ ทางหลวงสาย สุรินทร์ –ปราสาท ช่วงยูเทิร์น หลักกิโลเมตร ที่ 7 ก่อนถึงแยกเข้าทาง อบต.เฉนียง(ฉะ-เหนียง) อ.เมือง จ.สุรินทร์ รถจักรยานยนต์ ชนท้ายรถบรรทุกพ่วง ทำให้มีผู้เสียชีวิต ในที่เกิดเหตุ 1 ราย เป็นเพศชาย หลังจากได้รับแจ้งเหตุ ได้วิทยุประสานแจ้งให้ ศูนย์วิทยุศรีไผท(สี-พะไท) สภ.เมืองสุรินทร์ แจ้งไปยัง ร.ต.ท.หญิงสุพีชชา อุทัยพันธุ์ พนักงานสอบเวร สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ณัฏฐพัชร์ นวบุญยงค์ พนักงานตรวจสอบที่เกิดเหตุจราจร สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ จราจร สภ.เมืองสุรินทร์ แพทย์เวรโรงพยาบาลสุรินทร์ อาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ
ซึ่งในที่เกิดเหตุเป็นช่วงไหล่ผ่านถนนยูเทิร์น กลับมาประมาณ 10 เมตร พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ จอดริมไหล่ถนน มีกรวยสีส้ม ปิดท้ายรถ และเปิดไฟกระพริบฉุกเฉินจอดไว้ริมไหล่ถนน ขณะที่ช่วงท้ายรถลูกพ่วง ถูกรถจักรยานยนต์ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ทราบชื่อผู้ขับขี่เป็นชาย ทราบชื่อธนวัฒน์ อายุ 24 ปีผู้ขับขี่พุ่งเข้าชนท้ายรถบรรทุกพ่วง อย่างจัง ทำให้สภาพรถจักรยานยนต์ด้านหน้าพังยับเยิน ร่างผู้เสียชีวิต ลักษณะหักครึ่งลำตัว กระแทกมาข้างหลัง เลือดไหลนองพื้นถนน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุคาที่
จากการสอบถามถามนายสำรวม อายุ 24 ปี คนขับรถบรรทุก พ่วง 18 ล้อ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงก่อนหน้านี้ ประมาณ 30 นาที ตนเองไปบรรทุกไม้เลาแหลม มาจากโรงงานไชยรุ่งเรือง ในจังหวัดสุรินทร์ เพื่อนำไปส่งที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ซึ่งภายหลังจากที่ตนได้ไปบรรทุกไม้มาแล้ว มาจอดรถฝั่งตรงข้ามหน้าบริษัท เพื่อนำไส้กรองรถบรรทุกไปทำความสะอาด และเช็คอุปกรณ์ความพร้อมของรถในการเดินทางในค่ำคืนนี้ ตนเองได้นำอุปกรณ์ที่สำคัญไปตรวจที่บริษัท อยู่ฝั่งตรงข้าม จู่ๆพบว่ามีรถจักรยานยนต์ ขับแซงรถบรรทุกพ่วงสองคัน มาทางด้านขวา จากนั้นได้หักหลบเข้ามาทางซ้ายเพื่อหลบรถบรรทุกพ่วงสองคัน แต่เมื่อหักหลบมาแล้ว มาพุ่งชนท้ายรถพ่วงที่ตนจอดไว้ แบบไม่ไดเบรก ทำให้เสียชีวิต ในที่เกิดเหตุ
อย่างไรก็ตาม ร.ต.ท.หญิง สุพีชชา อุทัยพันธุ์ พนักงานสอบเวร สภ.เมืองสุรินทร์ ได้สอบปากคำผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วง ในที่เกิดเหตุ พร้อมสอบปากคำ ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นไว้ก่อน จากนั้นจะได้สรุปสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุจนทำให้มีผู้เสียชีวิต ว่าฝ่ายใดจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูกต่อไป