เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ปปส.ไล่จับแก๊งขนน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า มูลค่า 11 ล้านบาท


22 ก.ย. 2564, 06:54



ปปส.ไล่จับแก๊งขนน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า มูลค่า 11 ล้านบาท




เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 21 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจกองกำกับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด กองบังคับการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด โดยการอำนวยการ พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ผู้ผบก.สกส.บช.ปส. สั่งการ ให้ พ.ต.ท.ภาณุรัตน์ รวมทรัพย์ สารวัตร กก.4 บก.สกส.ออกหาข่าวหลังจากได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีแก็งค์ขนยาเสพติดจากภาคใต้เข้าสู่ ภาคกลาง จึงได้ติดตามการเคลื่อนไหวของแก็งค์ดังกล่าว

 



ในช่วงเวลา 15.00 น.ตำรวจ ปปส.พบรถยนต์กะบะสี่ประตู2คัน เป็นรถกะบะมิตซูบิซิ ไทรทันสีขาว สี่ประตู และรถยนต์กะบะ มาสด้า สีดำ มีนายซูลกลีลีฟ อายุ 28 ปี  และนายนิยดี อายุ 35  ปี ขับรถมิตซูบิซิ ขับตามกันมาบนถนนเอเซีย41 ขาขึ้น กทม. ในพื้นที่ อ.ไชยา จ.สุราษฏร์ธานี จึงสั่งสัญญาณให้หยุดตรวจแต่ไม่ยอมหยุดให้ตรวจ จึงแจ้งตำรวจพื้นที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฏร์ธานี ขับรถสายตรวจไล่จับ ระยะทางร่วม 50 กม.จนเข้าพื้นที่ อ.ละแม จ.ชุมพร ตำรวจ สภ.ละแม สามารถสกัดจับได้ที่ ด่านทุ่งสวรรค์ หมู่ที่ 9 ต.สวนแตง อ.ละแม จ.ชุมพร และอีกคันสามารถแหกด่านไปจับได้ที่ ตลาดอวยชัย 3 ต.วังตะกอ อ.หลังสวนจ.ชุมพร นำตัวส่งตรวจสอบ ที่ สภ.ละแม พบ น้ำยาสำหรับใส่บุหรีไฟฟ้า จำนวน 85 ลัง 48600 ขวด มูลค่า 11 ล้านบาท โดยของกลางทั้งหมดอัดแน่น มาในกะบะที่ติดฝาปิดอัตโนมัติ และ ในห้องโดยสาร ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ขับรถขนน้ำยาดังกล่าว

 


พ.ต.ท.ภาณุรัตน์ รวมทรัพย์ กล่าวว่า ”แก็งค์ดังกล่าวขนน้ำยาใส่บุหรี่ไฟฟ้า จาก จ.นราธิวาสไปจอดที่ จ.เพชรบุรี แล้วจะมีคนมาขับต่อไป  แก็งค์ดังกล่าวเป็นขบวนการใหญ่มีการขนยาเสพติดและ ของเถื่อนมานานเป็นปกติ ถูกตำรวจจับได้หลายครั้ง จนมาในครั้งนี้ได้ลักลอบขนน้ำยาใส่บุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาจำนวนมาก มูลค่า  11 ล้านบาทดังกล่าว”  สำหรับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เหล่านี้มีกลิ่นหอมผลไม้หลากหลายชนิดแต่มีพิษรุนแรงมาก ตำรวจ ปปส.จึงได้นำตัวส่ง พ.ต.ท.นิรันดร์ ชูหลอง พงส.ตั้งข้อหา “ร่วมกันนำเข้าสินค้า(น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า) หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร,ร่วมกันช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึ่งรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 , เป็นผู้ประกอบธุรกิจไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยซึ่งห้ามขายสินค้า หรืองดให้บริการสินค้าที่เป็นอันตราย ประกอบคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ ๙/๒๕๕๘ เรื่อง “ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า”บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” ตามมาตรา ๒๙/๙ วรรคสอง และ ๕๖/๔ แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.๒๕๒๒ , มาตรา ๓๗ แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.๒๕๒๒ (แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ ๔ พ.ศ.๒๕๖๒) ประกอบคำสั่งคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ ๙/๒๕๕๘ เรื่อง “ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า”บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” ดำเนินคดีต่อไป

 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.