วันที่ 22 ก.ย. 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นางยี ไม่มีนามสกุล คุณยายวัย 87 ปี ซึ่งเป็นชาวมอญ บ้านวังกะ หมู่ที่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เดินทางมาฉีดวัคซีน ชิโนฟาร์ม ที่ได้ลงทะเบียนไว้กับทางเทศบาลตำบลวังกะ พร้อมกับเพื่อนสนิทที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันอีก 3 คน โดยมีเจ้าหน้าที่เทศบาลฯ เข้ามาคอยดูแลอย่างใกล้ ในช่วงที่มาฉีดวัคซีน

โดยนางยี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวผ่านล่ามว่า ที่ผ่านมาในหมู่บ้านวังกะ มีผู้ติดเชื้อโควิด19 จำนวนมาก และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ตนเองและครอบครัวเริ่มวิตกกังวล จึงพยายามป้องกันตนเองโดยไม่เดินทางไปไหน และ ขณะเดียวกันลูกๆได้พยายามหาช่องทางขอวัคซีนให้ตนเองโดยเลือกวัคซีนชิโนฟาร์ม ซึ่งเป็นวัคซีนที่พบว่ามีความปลอดภัยสูง สำหรับผู้สูงอายุ เช่นตนเองและเพื่อนๆที่อยู่ในวัยเดียวกัน

จนวันนี้ถึงวันที่กำหนดมารับวัคซีน ตนเองและเพื่อนๆ อีก 3 คนที่ชักชวนกันลงทะเบียนรับวัคซีนชิโนฟาร์ม ไว้กับทาง อบจ.กาญจนบุรี จึงเดินทางมาฉีดวัคซีนพร้อมกัน ที่ตัดสินใจฉีดก็เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของตนเอง และไม่ได้วิตกกังวล หรือ กลัวแต่อย่างใด เนื่องจากเชื่อว่าเป็นวัคซีนที่ดี ที่สำคัญมีคุณหมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่มาคอยดูแลอย่างใกล้

ซึ่งวันนี้โรงพยาบาลสังขละบุรี ได้จัดการฉีดวัคซีน(ชิโนฟาร์ม)ให้กับประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านapp กาญจน์พร้อม จำนวน 400 โดส ซึ่งเป็นวัคซีนที่ อบจ.กาญจนบุรี จัดสรรมาให้

นอกจากนั้น ยังจัดการฉีดวัคซีน astrazeneca เข็มที่2 ให้กับประชาชน ที่ผ่านการฉีด sinovac เข็มที่ 1 ไป แล้ว อีกจำนวน 150 คน โดยล่าสุดสังขละบุรี ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ให้กับประชาชนในพื้นที่ไปแล้ว จำนวน 12,343 คน  (จากประชาชนกลุ่มเป้หมาย ทั้งหมด 20,000 คน) คิดเป็นร้อยละ 61.71  ดำเนินการฉีดวัคซีน เข็ม 2 ไปแล้ว จำนวน 4,735 คน  และ เข็ม 3 จำนวน 86 คน

ส่วนที่โรงเรียนอุดมสิทธิศึกษา แล้ว โรงพยาบาลสังขละบุรี และ สาธารณสุขอำเภอสังขละบุรี ยังได้กระจายการฉีดวัคซีน ลงไปในพื้นที่ ที่มี รพ.สต.อยู่ เช่น ที่ รพ.สต.บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 รพ.สต.บ้านซองกาเลีย หมู่ 8 รพ.สต.บ้านใหม่พัฒนา หมู่ 7  รพ.สต.บ้านเวียคะดี้ หมู่ 5 ในพื้นที่ ต.หนองลู  รพ.สต.บ้านกองม่องทะ หมู่ 2 ต.ไล่โว่  รพ.สต.บ้านยางขาว หมู่ 1 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี  เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ต้องการฉีดวัคซีน เพื่อลดภาระ ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทั้งนี้เพื่อเร่งให้ประชาชนได้รับวัคซีนมากที่สุด (เป้าหมายร้อยละ 80) เพื่อเตรียมเปิดอำเภอให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวได้อีกครั้งตามประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งกำหนดไว้ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 นี้

ขณะที่เช้าวันนี้โรงเรียนอุดมสิทธิศึกษา นักเรียนและผู้ปกครองที่ศึกษาอยู่ในระดับชั้น ม.1- ม.3 ได้เดินทางมา กรอกเอกสารการยินยอมรับวัคซีนไฟเซอร์ ตามที่โรงเรียนได้นัดหมาย

โดยนายเจริญ พรหมมา ผู้อำนวยการโรงเรียนได้เปิดให้นักเรียนที่มีความประสงค์ต้องการเข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งเป็นวัคซีนสำหรับนักเรียน ที่กระทรวงศึกษาธิการจะจัดฉีดให้กับนักเรียนกลุ่มที่สมัครใจโดยได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ซึ่งมีแผนจะดำเนินการฉีดให้กับนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย (อายุ 12-17 ปี) ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งวันนี้โรงเรียนได้ให้นักเรียนในระดับชั้น ม.1-ม.3 ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีนักเรียนที่สมัครใจรับวัคซีน จำนวน 682 คน ไม่รับ 281 คน (นักเรียน ม.1-3 ทั้งหมด 961 คน)

ซึ่งผู้ปกครองที่เดินทางแสดงความยินยอมให้บุตรหลานรับวัคซีน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมาได้ศึกษาข้อมูลวัคซีนไฟเซอร์ ที่กระทรวงจะดำเนินการฉีดให้นักเรียน ซึ่งจากข้อมูลพบว่า เป็นวัคซีนที่ดีที่สุดที่เรามีอยู่ในตอนนี้ จึงตัดสินใจให้ลูกฉีดวัคซีน เพื่อจะได้กลับมาเรียนในโรงเรียนได้ตามปกติอีกครั้ง หลังจากต้องเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้านเป็นเวลานาน และแน่นอนว่าในระยะยาวการที่เด็กไม่สามารถเรียนในห้องเรียนกับครูได้ตามปกติ จะส่งผลเสียต่อการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้นไป..เนื่องจากการเรียนออนไลน์มีข้อจำกัดหลายอย่าง ที่สำคัญที่ผ่านมาเด็ก ส่วนใหญ่ยังปรับตัวไม่ได้กับการเรียนออนไลน์

ขณะที่ ด.ญ. ปุ้มปุ้ย ไม่มีนามสกุล นักเรียนชั้น ม 2 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า พร้อมที่จะฉีดวัคซีน เพื่อจะได้กลับมาเรียนในห้องเรียนกับครูและเพื่อนๆอีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาการเรียนออนไลน์มีปัญหาที่เมื่อไม่เข้าใจในบทเรียนไม่รู้จะถามหรือปรึกษาใคร การเรียนในห้องเรียนกับครู ดีกว่าเนื่องจากหากไม่เข้าใจสามารถถามครูได้เลย ที่สำคัญตอนนี้เริ่มคิดถึงเพื่อนๆแล้ว

ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ 23 กันยายน โรงเรียนได้นัดหมายให้นักเรียนที่ศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมปลาย (ม.1-4-ม.-5) จำนวน 878 คน ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้นมีนักเรียนที่แจ้งความประสงค์ จะฉีดวัคซีนไฟเซอร์ไว้กับครูประจำชั้น จำนวน 616 คน ไม่ประสงค์จะฉีด 262 คน โรงเรียนอุดมสิทธิศึกษา เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ประจำอำเภอสังขละบุรี ซึ่งนักเรียนมีภูมิลำเนาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านต่างๆครอบคลุมทุกพื้นที่ในอำเภอสังขละบุรี นอกจากนั้นยังมีนักเรียนจำนวนหนึ่ง มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่บ้านไร่อ้อย บ้านบ่อญี่ปุ่น และ เมืองพญาตองซู ประเทศเมียนมา ซึ่งที่ผ่านมาเด็กนักเรียนกลุ่มนี้ ได้เข้ามาอาศัยอยู่กับญาติ และ พักอาศัยอยู่ ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 รอบแรก เมื่อเดือนมีนาคม 2561

ขณะที่สถานการณ์โควิด -19 ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ล่าสุด วานนี้ 21 ก.ย. 2564 มียอดผู้ป่วยสะสม 1,388 คน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 58 คน รักษาหายวันนี้ 88 คน หายป่วยสะสม 1,005 คน อยู่ระหว่างรักษา 311 คน