แต๊งค์ พงศกร สารภาพเคยติดยา พร้อมเผยเหตุไม่รับงานละครอีกเลย
22 ก.ย. 2564, 16:21
อดีตนักแสดงหนุ่ม แต๊งค์ พงศกร เปิดใจในรายการ คุยแซ่บSHOW เผยชีวิตสุดเหวี่ยงสายปาร์ตี้ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เคยคิดฆ่าตัวตาย กว่าจะหลุดพ้นได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย
ก่อนหน้านี้ละครติดต่อมา5 เรื่อง แต่ไม่รับ เพราะอะไร ?
คือเราไม่ได้มาทางสายการแสดงอยู่แล้ว คือแต่ก่อนคนอาจจะเห็นเราในวงการบันเทิง อาจจะเป็นเพราะคนเห็นเราในละครหินกลิ้ง คือหินกลิ้งเป็นบทที่ใกล้เคียงกับตัวเรา เราก็แสดงได้แบบสบายใจ แต่ถ้าเป็นบทที่ไกลตัว เราไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ เราไม่ได้เกิดมาเพื่อการแสดง ผมก็จะรู้สึกว่าทำได้ไม่ดี ส่วนที่อยู่ในวงการบันเทิงเพราะเราชอบงานพิธีกรมากว่า เราชอบพูดคุย
เห็นว่าเป็นสายปาร์ตี้ตัวยงด้วย ?
ก็ใช่ ด้วยความที่เราเรียนเมืองนอกมาตั้งแต่เล็ก ก็จะห่างเหินกับครอบครัวมาพอสมควร ก็เลยไม่ค่อยมีใครดูแล ติดเพื่อนด้วย คือเราติดเพื่อนตั้งแต่อยู่เมืองนอก ออกมาอยู่ข้างนอกก็อยู่คนเดียว ไม่ได้อยู่กับครอบครัว เราก็จะอยู่กับเพื่อนตลอดเวลา เราไม่โทษเพื่อน เราไม่โทษใครเลย มันเป็นชะตาชีวิตของเรา
ถามว่าสายปาร์ตี้หนักขนาดไหน พูดตรง ๆ เลยว่า มีทั้งเรื่องยาเสพติด และการเกเร ที่เราถลำลึกไป ซึ่งตอนแรกก็สนุกสนาน เพราะสมัยนั้นเราก็ไม่รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้า คือสารเคมีในสมองเราเองก็ไม่ปกติ และมีการอยู่คนเดียวไม่มีที่ปรึกษา พอใช้สารเสพติดจากการใช้เพื่อความสนุก ตอนหลังก็เปลี่ยนเป็นพึ่งพามัน ก็ติดในวังวนนั้นมาตลอด ผมเชื่อว่าทุกคนที่เคยถลำเข้าไปในวังวนนี้ ทุกคนไม่อยากเริ่มยุ่งกับมัน และอยากออกมา แต่มันขึ้นอยู่กับว่าจะออกมาได้หรือเปล่า หรือออกมาอย่างไร สุดท้ายที่ผมยังมีชีวิตอยู่ได้ ยังสามารถยืนอยู่ตรงนี้ได้ เพราะเรามีกำลังใจที่ดีจากครอบครัว
กว่าจะรู้ตัว เข้าไปอยู่ในวังวนนั้นนานแค่ไหน ?
ผมพูดตรง ๆ ว่าตรงนี้ต้องสู้ตลอดชีวิต มันไม่มีคำว่าหายขาด เพราะฉะนั้นกำลังใจมันสำคัญมาก เพราะเราต้องตัดทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นวงจรชีวิตเดิม ๆ ตรงนี้ต้องตัดออกให้หมด ทุกวันนี้ก็ยังต้องสู้กับมันทุกวัน มันไม่มีทางหลุดไปได้ แต่อย่างที่บอกว่าคนที่อยุ่ข้างเรา เราต้องหันไปมองให้มาก ๆ โดยเฉพาะคนที่อยู่ข้างเรา คนที่รักเรา และพอพูดถึงครอบครัว ผมเป็นคนที่รอครอบครัวของตัวเองมานานมาก เพราะว่าผมเคยมีครอบครัวที่ห่างกัน ผมไม่อยากใช้คำว่าครอบครัวที่แตกแยก เพราะคุณพ่อ คุณแม่มีสิทธิ์เลือกความรักของตัวเอง ทุกคนก็ยังรักผมอยู่ เพียงแต่เราห่างกัน
ตอนนี้ชีวิตพลิกผันมาเป็นหมอดู ?
ด้วยสถานการณ์โควิดที่เข้ามาทำให้ร้านปิดหมด เราก็เลยคิดว่าถ้าเราอยู่บ้านทำอะไร คนอยู่บ้านทำอะไร ทำไมเราไม่ลองหาอาชีพ หารายได้ ที่ทุกคนปิดอยู่บ้าน ซึ่งมีไม่กี่อย่าง เราก็ทำเปิดไพ่ให้คนมาฟัง ให้คนมาปรึกษา และเอาวิชาที่เราเคยร่ำเรียนมาเพราะคุณแม่เคยให้ไปเรียนวิชานี้มาก่อนหน้านี้ ซึ่งของผมเป็นวิชาเปิดไพ่ เป็นศาสตร์ค่อนข้างใหม่
เป็นการเอาตัวอักษรรูน ซึ่งเป็นตัวอักษรของชาวไวกิ้งทางยุโรปตอนเหนือ ซึ่งก่อนหน้านี้ก่อนคุณแม่จะแนะนำ เราเคยดูซีรีส์เกี่ยวกับไวกิ้ง เราก็เลยไปอ่านประวัติศาสตร์ของคนไวกิ้งว่าทำไมคนชาตินี้ถึงประสบความสำเร็จ ทำไมเขาถึงเก่ง เราก็เลยไปดูว่าเขานับถืออะไร ก็เลยทราบว่าเขามีวิธีคุยกับเทพเจ้าด้วยอักษรโบราณพวกนี้
ภาพ :thankpm