สธ.มอบนโยบายดูแลสุขภาพช่องปากที่ดี เป้าอายุ 80 ฟันถาวรใช้งานได้อย่างน้อย 20 ซี่
23 ก.ย. 2564, 17:18
วันที่ 23 กันยายน 2564 ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดประชุมวิชาการ “มองมุมงานทันตสาธารณสุขใน 3 ทศวรรษ” พร้อมมอบนโยบายผ่านระบบออนไลน์ จัดโดยคณะกรรมการสมาพันธ์ทันตแพทย์กระทรวงสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ซึ่งมีบุคลากรด้านทันตสาธารณสุขทุกภาคส่วน เข้าร่วมประชุมกว่า 5,000 คน เพื่อแลกเปลี่ยน ถ่ายทอดความรู้ประสบการณ์การทำงานทันตสาธารณสุขประจำปี และร่วมแสดงมุทิตาจิตต่อทันตบุคลากรผู้เกษียณอายุราชการประจำปี 2564
นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด 19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนทุกกลุ่มวัยมีการเข้าถึงบริการค่อนข้างจำกัด กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องหาแนวทางในการให้บริการเพื่อสอดคล้องกับวิถีชีวิตใหม่ (New normal) เดินหน้างานด้านทันตสาธารณสุขดูแลสุขภาพช่องปากประชาชนให้เหมาะสม ซึ่งในปีนี้องค์การอนามัยโลกยังได้กำหนดให้ประเด็นสุขภาพในช่องปากอยู่ในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เพื่อช่วยสร้างองค์ความรู้แก่ประชาชน ในการดูแลปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และสามารถป้องกันตนเองเบื้องต้นได้ โดยมีเป้าหมายสุขภาพช่องปากของคนไทยคือ “80/20” ผู้ที่มีอายุ 80 ปี ควรมีฟันถาวรที่ใช้บดเคี้ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานได้อย่างน้อย 20 ซี่
นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า ทิศทางการพัฒนางานสุขภาพช่องปากประเทศไทย 2565 กระทรวงสาธารณสุข เน้นงาน 6 ด้าน ได้แก่ สุขภาพช่องปากดีวิถีใหม่ ด้าน Health Literay สร้างการรอบรู้ให้ประชาชน มีพฤติกรรมสุขภาพช่องปากที่ดี ดูแลตนเองเบื้องต้นได้, ยกระดับระบบสุขภาพปฐมภูมิ และบริการ เพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงบริการ พร้อมรับส่งต่อหน่วยบริการสาธารณสุขทุกระดับอย่างไร้รอยต่อ, พัฒนาบริการสู่ Digital dentistry ใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมดำเนินงานและให้บริการ, บูรณาการกับสุขภาพองค์รวม ดูแลสุขภาพช่องปากทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะเด็กปฐมวัย กลุ่มเปราะบาง กลุ่มโรคเรื้อรัง, ด้านกำลังคนคุณภาพและเพียงพอ พัฒนาและฝึกอบรมบุคลากรเพื่อรองรับระบบบริการทันตกรรมเฉพาะทางระดับจังหวัดและรองรับการแพทย์วิถีใหม่ และลดปัจจัยเสี่ยงและสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อ ปฏิบัติงานแบบบูรณาการเครือข่าย และสร้างสิ่งแวดล้อมให้ปฏิบัติงานด้านทันตกรรมได้ดี
“ขอให้บุคลากรด้านทันตสาธารณสุขร่วมกันทำงานดูแลสุขภาพช่องปากคนไทยในทุกช่วงวัยของชีวิต ให้มีสุขภาพที่ดี เพื่อส่งผลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี กินดี อยู่ดี ร่างกายแข็งแรง สร้างความแข็งแรงให้ประเทศไทยและระบบเศรษฐกิจต่อไป” นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าว