ชาวชุมพรร่วมเผาศพ "หลวงตากล้วย" อายุ 120 ปี ตามความเชื่อโบราณ หลังระดมทุนกว่า 2 ล้าน สร้างเตาเผาไฟฟ้ารองรับศพผู้ป่วยโควิด-19
24 ก.ย. 2564, 07:21
โดยเมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 23 กันยายน 2564 ที่ศาลากลางเปรียญ วัดสุวรรณนัทธี หรือวัดคูขุด ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร พระครูบัณฑิตธรรมธาดา เจ้าคณะอำเภอเมืองชุมพร ได้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอเมืองชุมพร ประธานฝ่ายฆราวาส ได้ร่วมในพิธีสวมมาติกาและสวดบังสุกุล หลวงตากล้วย ที่เสียชีวิตลงด้วยอายุ 120 ปี ก่อนจะทำพิธีฌาปนกิจ ณ เมรุสุวรรณนัทธี หรือวัดคูขุดโดยคณะสงฆ์ ชาวบ้าน จำนวนมากเข้าร่วมในพิธีในครั้งนี้
พระครูปลัดธัญภูวริษฐ์ โชติปญฺโญ(หลวงไก่) เจ้าอาวาสวัดสุวรรณนัทธี(วัดคูขุด) เปิดเผยว่า การฌาปนกิจศพ หลวงตากล้วย ในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดชุมพร มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก และที่ผ่านมา ก็ได้มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ได้เสียชีวิตลง เป็นจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งในเขตอำเภอเมืองชุมพร มีวัดที่ต้องรองรับศพผู้ป่วยที่เสียชีวิต มีเพียง 2 วัด คือ วัดโพธิการาม และวัดคูขุดแห่งนี้ โดยวัดโพธิฯเตาเผาได้ใช้ระบบไฟฟ้า แต่วัดคูขุด ยังเป็นแบบโบราณใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิงในการเผา ซึ่งที่ผ่านมา ทางวัดได้เผาศพผู้ป่วยติดเชื้อไปแล้ว 11 ราย ซึ่งหากวันไหนที่มีผู้เสียชีวิตหลายราย จำเป็นต้องรอ จนกว่าเตาจะเย็น จึงสามารถเผาต่ออีกศพได้ ทำให้เสียเวลา ประกอบกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อเสียชีวิตลง จะต้องเร่งดำเนินการเผาให้เร็วที่สุด
พระครูปลัดธัญภูวริษฐ์ โชติปญฺโญ กล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าว ตนเองได้ปรึกษาหารือกับลูกศิษย์ ที่จะสร้างเตาเผาไฟฟ้าขึ้น แต่ต้องใช้เงินกว่า 2 ล้านบาทในการก่อสร้าง ซึ่งทุกคนได้มีข้อมติตรงกันที่จะระดมทุนทรัพย์ด้วยการบอกบุญต่อๆกัน เพียง 4 วัน มีผู้ร่วมทำบุญสร้างเตาเผาไฟฟ้า มากถึง 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งเมื่อได้เงินครบตามจำนวน จึงได้จัดจ้างช่างรับเหมามาดำเนินการ เพียง 10 วันแล้วเสร็จ และในวันนี้ ได้ทำพิธีฌาปนกิจศพหลอกตามประเพณีความเชื่อสืบทอดต่อกันมานาน หลังจากทางวัดได้ทำการสร้างเมรุเผาศพเสร็จแล้ว จะต้องทำพิธีเผาผี ซึ่งผีที่ว่า หากเป็นชาวบ้าน มาสร้างเมรุถวาย ก็จะนำบรรพบุรุษ ของผู้สร้างมาเผาเป็นศพแรก และหากทางวัดเป็นผู้สร้างเมรุหรือเตาเผา จะนำศพพระผู้ใหญ่ ที่อายุมากมาเผา เป็นศพแรกเช่นกัน
พระครูปลัดธัญภูวริษฐ์ โชติปญฺโญ กล่าวต่อว่า เหมือนครั้งนี้ วัดคูขุด ได้สมมติ หลวงตากล้วย อายุ 120 ปี เสียชีวิตลง เพื่อเผาเป็นครั้งแรก โดยศพหลวงตากล้วย ได้สมมติขึ้นโดยใช้ต้นกล้วย ขนาดใหญ่ เจาะเป็นรูปหน้าคน นุ่งห่มจีวรเหมือนพระทุกอย่าง และได้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพและทำพิธีกรรมทางศาสนา เป็นเวลา 2 คืน และวันที่สาม มีพิธีสวดมาติกา บังสุกุล วางดอกไม้จันทน์ จากนั้นนำเข้าเตาเผา สัปเหร่อก็ทำการเผาศพทันที พร้อมทั้งมีของชำร่วย แจกให้กับผู้มาร่วมงานและโปรยทานด้วย โดยทุกขั้นตอนทำเหมือนกับพิธีฌาปนกิจศพทั่วไป นับเป็นพิธีกรรมความเชื่อสืบทอดต่อกันมานาน และจะเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่ร่วมทำบุญสร้างเมรุให้มีแต่เรื่องดีๆ ทุกข์โศกผ่านไป หน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า ทำธุรกิจการค้า ติดต่อซื้อขายง่ายเหมือนปอกกล้วย อีกทั้งยังเป็นการทดสอบเตาเผาศพอีกด้วย ว่าจะสามารถทนความร้อนได้มาตรฐานหรือไม่ ให้สมกับที่ได้ลงทุนสร้างเตาเผาศพดังกล่าว
หลังจากที่ได้ทำพิธีฌาปนกิจหลวงตากล้วย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ได้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิต จำนวน 4 ราย โดยทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ นำมาเผาที่วัดคูขุด แห่งนี้ จำนวน 3 ราย และวัดโพธิการาม 1 ราย นอกจากนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ของจังหวัดชุมพร วันนี้ พบผู้ป่วยติดเชื้อ สูงสุดถึง 201 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสมล่าสุด7,938 ราย หายป่วย 5,488 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ 2,401 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 49 ราย