เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



มนัญญา ตรวจเยี่ยมสำนักวิจัยพัฒนาเกษตรพิษณุโลก ย้ำเฝ้าระวังสารพิษตกค้าง


24 ก.ย. 2564, 18:10



มนัญญา ตรวจเยี่ยมสำนักวิจัยพัฒนาเกษตรพิษณุโลก ย้ำเฝ้าระวังสารพิษตกค้าง




วันที่ 24 กันยายน 2564 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรละสหกรณ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 จังหวัดพิษณุโลก อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยรับฟังบรรยายสรุปภารกิจ และเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการวิเคราะห์สารพิษตกค้าง โดยมี  นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายสมบัติ ตงเต๊า รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร นางสาวฉันทนา คงนคร ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 2 หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตรได้ขับเคลื่อนนโยบายสำคัญในการพัฒนาภาคเกษตร ด้านวิจัย พัฒนาการผลิตพืช รวมถึงทดสอบเทคโนโลยีการเกษตร และการแก้ปัญหาของเกษตรกร งานด้านพัฒนาสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน GAP เกษตรอินทรีย์ และเป็นหน่วยรับรองแหล่งผลิต GAP พืช เกษตรอินทรีย์ ส่งเสริมเกษตรกรรมยั่งยืน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตที่เหมาะสม 



ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตร โดยสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 มีกลุ่มพัฒนาการตรวจสอบพืชและปัจจัยการผลิต เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ตรวจสารพิษตกค้างในผักและผลไม้เพื่อการรับรองแหล่งผลิตพืช GAP และพืชอินทรีย์ รวมทั้งตรวจเฝ้าระวังสารพิษตกค้างในผักและผลไม้จากแหล่งจำหน่ายต่าง ๆ โดยมีหน้าที่รับผิดชอบภาคเหนือตอนล่าง 7 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ตาก พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย และอุตรดิตถ์ ผักและผลไม้ส่วนใหญ่ที่สุ่มตรวจ ได้แก่ มะม่วง ลำไย พริก ส้มโอ ส้ม หอมแบ่ง มะยงชิด ส้มโอ และ มะเขือ เป็นต้น ห้องปฏิบัติการสามารถตรวจวิเคราะห์สารพิษตกค้างได้จำนวน 202 ชนิดสาร ด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ขั้นสูง ซึ่งผลการตรวจสารพิษตกค้างจากแปลง GAP และการตรวจเพื่อเฝ้าระวังสารพิษตกค้างในผักและผลไม้จากแหล่งจำหน่ายต่าง ๆ ที่ตรวจพบต้องมีปริมาณการตกค้างไม่เกินค่ามาตรฐานความปลอดภัย
   
จากนั้น รมช.เกษตรฯ ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของศูนย์วิจัยและพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชพิษณุโลก พร้อมทั้งเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการตรวจสอบคุณภาพเมล็ดพันธุ์ ได้การรับรองตามมาตรฐานสมาคมทดสอบเมล็ดพันธุ์นานาชาติ (International Seed Testing Association; ISTA) เมื่อปี 2560  ที่มีความพร้อมพัฒนาเป็นศูนย์ตรวจรับรองแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์รองรับประชาคมอาเซียน (Seed Hub) และมีแผนแม่บทขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์เพื่อเพิ่มศักยภาพการส่งออกเมล็ดพันธุ์ไทย รักษาความเป็นผู้นำต่อยอดความมั่นคงและความยั่งยืนของเมล็ดพันธุ์ไทยในภูมิภาค  ตลอดจนเกษตรกรไทยเข้าถึงเมล็ดพันธุ์คุณภาพดีอย่างเพียงพอ


“เมล็ดพันธุ์เป็นปัจจัยสำคัญของการผลิตพืช เป็นต้นน้ำของการผลิตที่ทำให้ผลผลิตสูงและมีคุณภาพดี จึงได้มอบแนวทางการดำเนินงานโดยให้สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1-8 แสดงศักยภาพของการผลิตเมล็ดพันธุ์หรือพันธุ์ที่โดดเด่นตามภูมิภาค เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ที่ผลิตโดยกรมวิชาการเกษตรเป็นปัจจัยที่สำคัญเพราะเป็นลูกผสมเปิด สามารถเก็บพันธุ์ไว้ขยายพันธุ์ต่อได้ พร้อมทั้งให้ความรู้แก่เกษตรกรในการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืช” รมช.มนัญญา กล่าว






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.