เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ขณะนี้พายุโซนร้อน "เตี้ยนหมู่" ได้เคลื่อนที่ปกคลุมเข้ามาในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ  ทำให้มีฝนตกหนักต่อเนื่องใน 22 อำเภอของ จ.ศรีสะเกษ และส่งผลให้มีมวลน้ำจำนวนมากบริเวณเขื่อนราษีไศล ต.หนองแค อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเขื่อนราษีไศล เป็นเขื่อนคอนกรีต มีบานประตูระบายน้ำ 7 บาน กั้นแม่น้ำมูลที่บ้านห้วย-บ้านดอนงูเหลือม โดยขณะนี้เขื่อนราษีไศลได้เปิดประตูระบายน้ำ 5 บานประตู เฉลี่ยบานละ 0.40  เมตร ปริมาณการไหลออกของน้ำ จำนวน 155.252 ลูกบาตรเมตรต่อวินาที หรือ 13.414 ล้านลูกบาตรเมตรต่อวัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการเร่งระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำของเขื่อน  หลังจากที่มีฝนตกหนักมาอย่างต่อเนื่องตลอดสัปดาห์  ซึ่งทางเขื่อนราษีไศล ได้มีการประกาศแจ้งเตือนเกษตรกรที่ทำการเกษตรตามแนวริม 2 ฝั่งแม่น้ำมูลเพื่อให้ทราบถึงการเปิดประตูระบายน้ำในครั้งนี้ เพื่อป้องกันบ้านเรือนไร่นาของเกษตรกรไม่ได้รับความเสียหายจากน้ำที่เอ่อล้นเข้าไปท่วมไร่นา   ขณะที่ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องนี้ ได้ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่กระจายทั่วทั้ง 22 อำเภอของ  จ.ศรีสะเกษ 

นายณัทเศรษฐ์ ถิรวัฒน์ธนกร ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหัวนา สำนักงานชลประทานที่ 8 เปิดเผยว่า  ตามที่ สำนักงานชลประทานที่ 7 จ.อุบลราชธานี ได้แจ้งว่า สถานการณ์น้ำใน จ.อุบลราชธานี มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากปริมาณน้ำที่ไหลลงมาจากแม่น้ำชี และลำเชบาย ประกอบกับ อิทธิพล พายุโซนร้อน "เตี้ยนหมู่" ทำให้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมที่อยู่อาศัยของพี่น้องชาว  จ.อุบลราชธานีที่อาศัยริมแม่น้ำมูล หากเขื่อนหัวนาทำการแขวนบานระบาย เกรงว่าปริมาณน้ำที่ระบายลงไป จะส่งผลทำให้น้ำท่วมเพิ่มมากขึ้น โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหัวนา ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เขื่อนหัวนาจะขอชะลอการแขวนบานระบายน้ำเขื่อนหัวนา และรักษาระดับน้ำที่หน้าเขื่อนไว้ไม่ให้เกิน +112.00 ม.รทก. จนกว่าพายุโซนร้อน"เตี้ยนหมู่" จะผ่านออกไปจากพื้นที่  ทั้งนี้ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหัวนา จะบริหารจัดการน้ำในการดูแลพื้นที่ทั้งด้านเหนือน้ำและด้านท้ายน้ำ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพี่น้องให้น้อยที่สุด และเมื่อพายุโซนร้อน "เตี้ยนหมู่" ได้ผ่านออกไปแล้ว โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหัวนา จึงจะพิจารณาดำเนินการแขวนบานระบายน้ำเขื่อนหัวนาอีกครั้ง

ทางด้าน นายวัฒนา   พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า จากการที่ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องนี้  ตนจึงขอเตือนประชาชนชาวศรีสะเกษทุกพื้นที่ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ และระวังอันตรายจากลมแรงที่เกิดขึ้นได้ด้วย และให้ทุกอำเภอเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำและติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิดด้วย พร้อมทั้งให้ตรียมความพร้อมทุกด้านเพื่อให้สามารถเข้าไปให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่รับผิดชอบได้รวดเร็วที่สุด