อุทัยธานีส่อวิกฤต ! น้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วม "วัด-สถานที่ท่องเที่ยว" หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง
25 ก.ย. 2564, 09:18
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนที่ตกหนักอย่างต่องเนื่องและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตกโดยเฉพาะจากเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ทำให้เกิดมวลน้ำป่าไหลบ่าทะลัก ประกอบกับมีการระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำคลองโพธิ์ อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ ไหลบ่ามารวมลงสู่แม่น้ำตากแดดจนเต็มลำน้ำ ทำให้โครงการชลประทานจังหวัดอุทัยธานี ต้องเพิ่มการระบายน้ำลงสูสู่ท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพื่อรองรับมวลน้ำก้อนใหม่ และไม่ให้ส่งผละกระทบต่อพื้นที่เหนือเขื่อนวังร่มเกล้าในพื้นที่อำเภอสว่างอารมณ์ และอำเภอทัพทันถูกน้ำป่าเอ่อล้นจากแม่น้ำตากแดดใหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ และล่าสุดวันนี้เขื่อนวังร่มเกล้าตกยกประตูระบายน้ำทั้ง 3 บาน สูงขึ้นอีกและเร่งระบายน้ำสู่ท้ายเขื่อนในอัตรา 197.15 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลงสู่แม่น้ำสะแกกรัง ประกอบกับยังมีมวลน้ำจากภาคเหลือไหลบ่าลงมารวมที่แม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์ ด้วยอตราไหลผ่านที่สถานีวัดน้ำ C2 ( เจ้าพระยา ) จังหวัดนครสวรรค์วันนี้วัดได้ 2,172 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ส่งผลให้ระดับในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีอย่างต่อเนื่อง และปริมาณของน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีหนุนเข้าสู่แม่น้ำสะแกกรัง จนทำให้แม่น้ำสะแกกรังมีระดับศุงขึ้นมากจนน่าเป็นห่วง และระดับน้ำใกล้ถึงจุดวิกฤตแล้ว โดยเฉพาะที่ไหลผ่านตัวเมืองอุทัยธานี บริเวณตลอดแนวของฝั่งวัดอุโปสถารามหรือโบสถ์ ซึ่งไม่มีเขื่อนป้องกันน้ำท่วมและเหลือเพียงประมาณ 50 ซม.ก็จะล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นของโบราณสถานแล้ว และประชาชนผู้อาศัยอยู่ในเรือนแพต้องชักรากเรือนแพอาศัย และกระชังปลาของเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาเข้าฝั่งให้มากที่สุด รวมทั้งผูกยึดเรือนให้แน่นหนาป้องกันกระแสน้ำพัดเรือนแพให้ได้รับความเสียหาย
ซึ่งประชาชนมีความหวั่นวิตกว่าจะเกิดอุทกภัย และน้ำท่วมใหญ่เหมื่อนเช่นปี 54 ซึ่งประชาชนโดยพาะผู้ที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ริมตลิ่งในแม่น้ำสะแกกรัง ได้เตรียมความพร้อมรับมือ โดยการนำเรือมาเตรียมสัญจรหากเกิดน้ำท่วม อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ โครงการชลประทานอุทัยธานี จึงได้ประกาศประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยาและในแม่น้ำสะแกกรัง อาทิ งานก่อสร้าง เขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร เป็นต้น และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำสะแกกรัง ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเรือนแม่น้ำสะแกรัง ขอให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด ต่อไป