พิษณุโลก! เตือนระดับน้ำวิกฤติ 3 อำเภอ เฝ้าระวังน้ำป่าไหลมาสมทบ
25 ก.ย. 2564, 15:48
ชลประทานแจ้งเตือนระดับน้ำ อ.บางระกำ อ.วังทอง และ อ.เนินมะปราง อยู่ในขั้นวิกฤติ เตือนประชาชนริมน้ำ ให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด พร้อมอพยพหากมีคำสั่ง ขณะที่น้ำจากลำน้ำเข็กจะไหลบ่าลงมาสมทบภายใน 1-2 วันนี้ เร่งน้ำกระสอบทรายกั้นน้ำเข้าเขตเศรษฐกิจในเทศบาลตำบลวังทอง
วันที่ 25 กันยายน 2564 ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ โครงการชลประทานพิษณุโลก (SWOC-PL) สำนักงานชลประทานที่ 3 แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำท่า วันที่ 25 กันยายน 2564 เวลา 12.00 น .สถานี Y.64 แม่น้ำยม อ.บางระกำ /สถานี N.24A แม่น้ำเข็ก(แม่น้ำวังทอง) อ.วังทอง จ.พิษณุโลก และสถานี N.43A คลองชมพู ต.ชมพู อ.วังทอง อยู่ในเกณฑ์วิกฤติ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบเส้นทางน้ำที่บริเวณลุ่มน้ำวังทอง ที่สถานีวัดน้ำ N.24A ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พบว่าระดับน้ำแม่น้ำเข็ก ค่าระดับน้ำที่วัดได้อยู่ที่ 11.80 เมตร เลยระดับวิกฤติที่ 11.50 เมตร ( ระดับตลิ่ง ) จึงแจ้งเตือนประชาชนพื้นที่ริมแม่น้ำเข็ก แม่น้ำวังทองให้เฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด ทยอยเก็บสิ่งของขึ้นที่สูงไว้ก่อน
ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้สั่งการศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะโครงการชลประทานพิษณุโลก เตรียมความแผนจัดการจราจรและผันน้ำจากแม่น้ำวังทองและแม่น้ำชมพู ระบายน้ำสู่แม่น้ำน่าน รับมืออุทกภัยฝนตกชุก ใช้แผนการบริหารจัดการแม่น้ำวังทอง-แม่น้ำชมพู ควบคุมปริมาณน้ำไม่ให้เกินศักยภาพความจุแม่น้ำวังทองของแม่น้ำที่จะรับได้ เพื่อไม่ให้เกิดการล้นตลิ่ง เข้าท่วมพื้นที่ชุมชุนและพื้นที่เกษตร รวมทั้งระบายลงสู่แม่น้ำน่านเพื่อลดผลกระทบ โดยการควบคุมปริมาณน้ำแม่น้ำวังทอง ที่สถานีวัดน้ำ N.24A ไม่เกิน 316 ลบ.ม/วินาที และแม่น้ำชมพู ที่สถานีวัดน้ำ N.43A ไม่เกิน 204 ลบ.ม/วินาที
ขณะนี้ โครงการชลประทานพิษณุโลก ประสานงานร่วมกับ สำนักงานชลประทานที่ 3 ในการจัดจราจรน้ำในแม่น้ำวังทอง และแม่น้ำชมพู ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ดำเนินการพร่องระบายน้ำ ในแม่น้ำวังทอง ลงสู่แม่น้ำน่านให้มากที่สุด โดยระบายน้ำผ่านอาคารชลประทานทุกอาคาร ในปริมาณสูงสุด ทั้ง 2 ทาง คือผันระบายลงสู่ แม่น้ำน่าน ที่ ต.ทำฬ่อ อ.เมือง จ.พิจิตร และ ผันระบายลงสู่ คลองทำเนียบ เพื่อไปลงแม่น้ำน่าน ที่ ต.สนามคลี อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก นอกจากนี้ ควบคุมและบริหารจัดการน้ำแม่น้ำน่าน และจากเขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ เขื่อนนเรศวร ให้สอดคล้องกับการผันน้ำจากแม่น้ำยมลงแม่น้ำน่าน เพื่อช่วยแร่งการระบายน้ำแม่น้ำวังทองและแม่น้ำชมพู โดยการงดการระบายน้ำ ของเขื่อนสิริกิติ์ และ งดการระบายน้ำเขื่อนแควน้อย เพื่อเก็บกักน้ำ และ ลดการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำน่าน และ ชะลอหน่วงน้ำเหนือเขื่อนนเรศวร รวมทั้ง สำรวจจุดเสี่ยง ในพื้นที่คันคลองต่ำ และจุดเปราะบางที่เคยเกิดอุทกภัยประจำ เช่น แม่น้ำวังทอง บริเวณตลาด อ.วังทอง , คันแม่น้ำวังทอง ต.วังพิกุล ฯลฯ ส่วนแม่น้ำชมพู คันคลอง ใน เขต ต.เนินกุ่ม และ ต.วัดตายม ที่เคยเกิดการกัดเซาะ และ พังทลายน้ำไหลเข้าพื้นที่ ควรมีการสำรวจและตรวจสอบ แก้ไข เสริมความแข็งแรง และ ให้ เจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง
ขณะที่บริเวณจุดวัดระดับน้ำบ้านท่าข้าม หมู่ 5 ตำบลวังนกแอ่น อ.วังทอง ระดับวิกฤติอยู่ที่ 3.50 เมตร ปัจจุบัน 3.60 เมตร ใช้เวลา 6-8 ชม.จะเดินทางถึงเทศบาลตำบลวังทอง ที่จุดวัดระดับน้ำม.1 บ้านวังทอง สะพานวังทอง ระดับวิกฤติ 9 เมตร ปัจจุบัน 9 เมตร เช้าวันนี้หลายหน่วยงานพร้อมด้วยชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้มาช่วยกันก่อกระสอบทรายเพื่อกั้นจุดวิกฤติในเขตเทศบาลตำบลวังทอง สถานการณ์น้ำในปัจจุบันอยู่ในขั้นวิกฤตแล้ว เร่งนำกระสอบทรายเรียงกั้นแนวถนน แนวบ้านเรือนประชาชน และอุดท่อระบายน้ำ เพื่อป้องกันหากแม่น้ำเอ่อล้นตลิ่งจะได้ไม่เข้าท่วมตลาดวังทอง ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจ และมีบ้านเรือนประชาชนอาศัยอยู่จำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีจุด ในพื้นที่ต่ำ ในตำบลชัยนาม ตำบลวังทอง ตำบลวังพิกุล คาดการณ์ว่าน้ำจะล้นตลิ่งและเริ่มไหลเข้าท่วม พื้นที่การเกษตร ในวันนี้
ขณะที่บริเวณ บ้านบึงพร้าว ม.3 ต.ชัยนาม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ขณะนี้ระดับน้ำได้หลากเข้าทุ่งนากว่า 500 ไร่ แล้ว เริ่มไหลท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้านในบางจุด ขณะนี้ประชาชนในพื้นที่ เริ่มทยอยเก็บของ หลายคนเดินทางมาดูทิศทางน้ำพูดคุยหารือกันริมทางเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพราะคาดว่าจะยังคงมีมวลน้ำอีกจำนวนไม่น้อยที่กำลังไหลมาจากลำน้ำเข็ก คาดว่าจะหลากเข้าพื้นที่ภายใน 1-2 วันนี้ ซึ่งอาจจะทำให้ปริมาณน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่ทางการเกษตรได้